Abstract:
วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลการรั่วซึมระดับจุลภาคของสารยึดติดระหว่างผิวฟันที่ไม่มีการปนเปื้อนน้ำลายกับผิวฟันที่มีการกำจัดการปนเปื้อนนั้นด้วยสารไพรเมอร์ของระบบสารยึดติดที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน วัสดุและวิธีการ เตรียมโพรงฟันคลาสไฟว์บนผิวฟันกรามน้อยด้านใกล้แก้ม 108 ซี่ แบ่งเป็น 9 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ไม่มีการปนเปื้อนของออปติบอนด์ เอฟแอล, ออปติบอนด์ เอ็กซ์ทีอาร์, ออปติบอนด์ ออลอินวัน (กลุ่ม FC, XC, AC ตามลำดับ) กลุ่มที่มีการปนเปื้อนของน้ำลายและกำจัดด้วยสารไพรเมอร์ก่อนการฉายแสงของสารยึดติดทั้ง 3 ชนิด (กลุ่ม FB, XB, AB ตามลำดับ) และกลุ่มที่มีการปนเปื้อนของน้ำลายและกำจัดหลังการฉายแสงของสารยึดติดทั้ง 3 ชนิด (กลุ่ม FA, XA, AA ตามลำดับ) บูรณะด้วยเรซินคอมโพสิต (พรีมิส สีเอ 3 บอดี้) ขัดด้วยแผ่นซอฟเฟลกซ์ จำลองการใช้งานด้วยการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ แล้วแช่ในสารละลายเมทิลีนบลู ตัดฟันตามแนวแกนฟัน และประเมินการรั่วซึมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ที่กำลังขยาย 20 เท่าด้วยคะแนน 5 ช่วง วิเคราะห์ผลด้วยสถิติครัสคัลวาลิสและแมนวิทนี่ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษา การรั่วซึมระดับจุลภาคบริเวณเคลือบฟันและเนื้อฟันของกลุ่ม FB และ FA มีค่ามัธยฐานมากกว่าของกลุ่ม FC อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนค่ามัธยฐานการรั่วซึมระดับจุลภาคของกลุ่ม XB และ XA นั้นพบว่าเฉพาะบริเวณเคลือบฟันเท่านั้นที่มีค่ามากกว่ากลุ่ม XC อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ในขณะที่ไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบค่ามัธยฐานการรั่วซึมของกลุ่ม AC, AB, AA ทั้งส่วนเคลือบฟันและเนื้อฟัน สรุป ในการศึกษาครั้งนี้ การปนเปื้อนน้ำลายในขั้นตอนการเตรียมผิวฟันด้วยออปติบอนด์ เอฟแอลไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยสารไพรเมอร์ของสารยึดติดนี้ ส่วนออปติบอนด์ เอ็กซ์ทีอาร์สามารถแก้ไขการปนเปื้อนน้ำลายได้ในส่วนของเนื้อฟันเท่านั้น สำหรับออปติบอนด์ ออลอินวันนั้นพบว่าไม่ว่าการปนเปื้อนน้ำลายจะเกิดขึ้นที่เคลือบฟันหรือเนื้อฟัน เมื่อแก้ไขแล้วการรั่วซึมระดับจุลภาคนั้นไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุม