Abstract:
วิทยานิพนธ์เล่มนี้มุ่งศึกษาว่าองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กสามารถทำให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจในตัวองค์กรได้อย่างไร โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาเงื่อนไขการเกิดความตื่นตัวเรื่องความรับผิดรับชอบ และสภาพปัจจุบันของความรับผิดรับชอบ (2) เพื่อศึกษาว่าองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก รวมทั้งกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความเข้าใจเรื่องความรับผิดรับชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนต่อผู้รับบริการอย่างไร (3) เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการจัดให้มีความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการ ผู้วิจัยใช้แนวคิดเรื่อง ความรับผิดรับชอบ (Accountability) วิธีการวิจัยเน้นการวิจัยเชิงคุณภาพและกรณีศึกษา โดยเก็บข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม กรณีศึกษา 4 องค์กรที่มีการสร้างความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการอย่างเข้มแข็ง ได้แก่ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเด็ก และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
ผลการศึกษาพบว่า มีเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ทำให้องค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก เกิดความตื่นตัวเรื่องความรับผิดรับชอบ ได้แก่ ความเติบโตของขบวนการภาคประชาสังคม พัฒนาการของบทบาทภาครัฐและภาคเอกชนในงานพัฒนา การเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนา แนวคิดธรรมาภิบาล ความเข้มแข็งของสื่อ องค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กจึงสร้างกลไกประกันความรับผิดรับชอบในลักษณะต่างๆ ขึ้นมา ประกอบด้วย พันธกิจ การเปิดเผยข้อมูลและการรายงาน คณะกรรมการอำนวยการ จรรยาบรรณ การติดตามและประเมินผลการมีส่วนร่วม และกลไกประกันความรับผิดรับชอบอย่างไม่เป็นทางการ โดยจะพบกลไกเหล่านี้ในกระบวนการทำงาน การอบรมดูแลบุคลากร และวัฒนธรรมองค์กร การทำงานอย่างรับผิดรับชอบของกรณีศึกษาสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ สามารถดำเนินงานตามวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่อง โปร่งใส มีประสิทธิภาพ งานวิจัยเสนอมีข้อเสนอแนะว่าการจัดให้มีความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการ ควรต้องมีองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ ทัศนคติที่ดีต่อการสร้างความรับผิดรับชอบ การเปิดให้ผู้รับบริการมีส่วนร่วม การถ่ายทอดค่านิยมในการทำงาน การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เป็นต้น