DSpace Repository

ความรับผิดรับชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนต่อผู้รับบริการ : ศึกษากรณีองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก

Show simple item record

dc.contributor.advisor สุริชัย หวันแก้ว
dc.contributor.author ปัทมนันท์ ปุณเสรีพิพัฒน์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์
dc.date.accessioned 2013-10-15T08:12:07Z
dc.date.available 2013-10-15T08:12:07Z
dc.date.issued 2552
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/36167
dc.description วิทยานิพนธ์ (สค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552 en_US
dc.description.abstract วิทยานิพนธ์เล่มนี้มุ่งศึกษาว่าองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กสามารถทำให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจในตัวองค์กรได้อย่างไร โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาเงื่อนไขการเกิดความตื่นตัวเรื่องความรับผิดรับชอบ และสภาพปัจจุบันของความรับผิดรับชอบ (2) เพื่อศึกษาว่าองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก รวมทั้งกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความเข้าใจเรื่องความรับผิดรับชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนต่อผู้รับบริการอย่างไร (3) เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการจัดให้มีความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการ ผู้วิจัยใช้แนวคิดเรื่อง ความรับผิดรับชอบ (Accountability) วิธีการวิจัยเน้นการวิจัยเชิงคุณภาพและกรณีศึกษา โดยเก็บข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม กรณีศึกษา 4 องค์กรที่มีการสร้างความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการอย่างเข้มแข็ง ได้แก่ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเด็ก และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า มีเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ทำให้องค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก เกิดความตื่นตัวเรื่องความรับผิดรับชอบ ได้แก่ ความเติบโตของขบวนการภาคประชาสังคม พัฒนาการของบทบาทภาครัฐและภาคเอกชนในงานพัฒนา การเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนา แนวคิดธรรมาภิบาล ความเข้มแข็งของสื่อ องค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กจึงสร้างกลไกประกันความรับผิดรับชอบในลักษณะต่างๆ ขึ้นมา ประกอบด้วย พันธกิจ การเปิดเผยข้อมูลและการรายงาน คณะกรรมการอำนวยการ จรรยาบรรณ การติดตามและประเมินผลการมีส่วนร่วม และกลไกประกันความรับผิดรับชอบอย่างไม่เป็นทางการ โดยจะพบกลไกเหล่านี้ในกระบวนการทำงาน การอบรมดูแลบุคลากร และวัฒนธรรมองค์กร การทำงานอย่างรับผิดรับชอบของกรณีศึกษาสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ สามารถดำเนินงานตามวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่อง โปร่งใส มีประสิทธิภาพ งานวิจัยเสนอมีข้อเสนอแนะว่าการจัดให้มีความรับผิดรับชอบต่อผู้รับบริการ ควรต้องมีองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ ทัศนคติที่ดีต่อการสร้างความรับผิดรับชอบ การเปิดให้ผู้รับบริการมีส่วนร่วม การถ่ายทอดค่านิยมในการทำงาน การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เป็นต้น en_US
dc.description.abstractalternative As NGOs has increasingly played an important part in development, its role should be founded in public trust where its legitimacy came. This research seeks to find out how NGOs for children build trust in public. Its objectives are (1) to find out the factors influencing NGOs for children's awareness of downward accountability and present state of NGOs for children accountability in Thailand (2) to find out how NGOs for children and its stakeholders make sense of accountability (3) to make suggestions about initiating downward accountability in NGOs for children. The research was conducted by documents review, in-depth interview and non-participant observation using the concept of "NGO accountability" in four case studies including The Center for the Protection of Children's Rights Foundation, Holt Sahathai Foundation, Foundation for Children, and World Vision Foundation of Thailand. The findings reveal that there are many, both domestic and international, factors, influencing NGOs for children's awareness of downward accountability including the growth of civil society, state and private sector roles in development, the changing concept of development, the concept of good governance, and the growth of media role. Consequently, the case studies initiated accountability mechanisms to respond to the growing awareness. These are in the forms of organizational missions, disclosure of reports, board of trustees, codes of conduct, monitoring and evaluation, participation, and informal accountability mechanisms. These mechanisms are found in working process, human resource management, and organization culture. Case studies' downward accountability is relevant to their stakeholders' expectation, i.e. to follow the organizations' objectives with transparency, continuity, and efficiency. The research suggests that successful downward accountability building should include, for example, positive attitude towards accountability and evaluation, clients' participation, inculcation of organization's values, understanding and cooperation between sectors. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2009.1004
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject การบริหารองค์การ en_US
dc.subject ความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชน en_US
dc.subject มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก en_US
dc.subject สหทัยมูลนิธิ en_US
dc.subject มูลนิธิเด็ก en_US
dc.subject มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย en_US
dc.subject องค์กรพัฒนาเอกชน en_US
dc.subject ความรับผิดชอบ en_US
dc.subject Non-governmental organizations en_US
dc.subject Responsibility en_US
dc.title ความรับผิดรับชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนต่อผู้รับบริการ : ศึกษากรณีองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็ก en_US
dc.title.alternative NGO downward accountability : a case study of non-governmental organizations for children en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name สังคมวิทยามหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline สังคมวิทยา en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor Surichai.w@chula.ac.th
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2009.1004


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record