Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณฟลูออไรด์ที่เพิ่มขึ้นในผิวเคลือบฟันภายหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ที่ผลิตโดย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และฟลูออไรด์เจลชนิดความเข้มข้นสูงที่ใช้ด้วยตนเอง โดยคัดเลือกอาสาสมัคร 64 คน จากเด็กอายุ 8-14 ปี จากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ จากนั้นแบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่มตามความเข้มข้นของปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันก่อนการวิจัย เก็บตัวอย่างผิวเคลือบฟันโดยใช้วิธีกรดกัดบริเวณปลายฟันด้านริมฝีปากของฟันตัดแท้ซี่กลางบนที่ไม่มีรอยผุ หรือรอยโรคทั้งก่อนและหลังใช้ฟลูออไรด์ ทั้ง 2 รูปแบบด้วยตนเอง นำตัวเอย่างผิวเคลือบฟันที่ได้ไปวิเคราะห์หาปริมาณฟลูออไรด์ และปริมาณแคลเซียมฟลูออไรด์อิเลคโทรด และเครื่องอะตอมมิกแอบซอพชันสเปคโทรโฟโตรมิเตอร์ (atomic absorption spectrophotometer) ผลการวิจัยพบว่า ปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันที่เพิ่มขึ้นจากการใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์มีปริมาณเฉลี่ย 1,746.0910+-696.362 ส่วนในล้านส่วน ซึ่งไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ฟลูออไรด์เจลชนิดความเข้มข้นสูงที่มีปริมาณเฉลี่ย 2,198.0125+1066.242 ส่วนในล้านส่วน จากผลการวิจัยสรุปว่า น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ที่ผลิตโดย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และฟลูออไรด์เจลชนิดความเข้มข้นสูงที่ใช้ด้วยตนเองให้ผลไม่แตกต่างกันในด้านการเพิ่มปริมาณฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันแท้ที่ไม่มีรอยโรค