Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษากฎเกณฑ์การตีความสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง ซึ่งมีที่มาจากกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์แนวทางการปรับใช้กฎเกณฑ์ดังกล่าวกับอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนของประเทศไทย จากการศึกษาการตีความอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในศาลนานาประเทศ มีแนวทางการตีความอยู่ 4 ประการ คือ ประการแรกใช้กฎเกณฑ์การตีความสนธิตามมาตรา 31,32 อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ประการที่สอง ใช้อนุสัญญาต้นแบบและคำอธิบายขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือองค์การสหประชาชาติแล้วแต่กรณี ประการที่สาม ใช้คำอธิบายเชิงเทคนิคที่ประเทศนั้นเป็นผู้สร้างขึ้นเอง และประการสุดท้าย ใช้วิธีการตีความเช่นเดียวกับการตีความกฎหมายภาษีอากรโดยไม่พิจารณาบริบทระหว่างประเทศ ประเทศไทยตีความอนุสัญญาภาษีซ้อนโดยใช้วิธีการตีความเช่นเดียวกับการตีความกฎหมายภาษีอากรโดยไม่พิจารณากฎเกณฑ์การตีความสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่ได้ใช้อนุสัญญาต้นแบบตลอดจนคำอธิบายมาช่วยในการตีความ ทั้งที่อาจนำมาใช้ประกอบการตีความได้ในฐานะงานเตรียมร่างสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ การตีความสนธิสัญญาจะต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์การตีความสนธิสัญญาที่ปรากฎอยู่ในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969 ซึ่งแม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นภาคีก็ตาม แต่ผูกพันในหลักเกณฑ์ดังกล่าวในฐานะที่เป็นกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ