Abstract:
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติทางเมตาบอลิซึม โดยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงซึ่งมีผลต่อการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ในคนไข้ที่มีการควบคุมน้ำตาลไม่ดี ดังนั้นเป้าหมายของการรักษาโรคเบาหวานคือ การควบคุมลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ ซึ่งแครอทและเบบี้แครอทเป็นสมุนไพรที่มีเบต้าแคโรทีนอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบวิตามินบี วิตามินซี แร่ธาตุและเส้นใยสูงในแครอทอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคเบาหวาน จากการศึกษาฤทธิ์ของสารหยาบจากรากแครอทและเบบี้แครอท ที่สกัดด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่า สารสกัดหยาบจากรากเบบี้แครอทออกฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าแครอท และสารที่สกัดด้วยเอทานอลมีสารประกอบของฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์มากกว่าในปิโตรเลียมอีเทอร์ จากการศึกษาสารที่สกัดด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระ มีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์แอลฟาอะไมเลส การกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเซลล์ตับอ่อน และการกระตุ้นการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้ดีกว่าสารที่สกัดด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ โดยฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของสารสกัดในรูปแบบของ dose dependent แต่อย่างไรก็ตามสารสกัดหยาบจากรากแครอทและเบบี้แครอทที่สกัดด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์แอลฟากลูโคซิเดสได้ดีกว่าสารที่สกัดด้วยเอทานอล ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าการสกัดสารด้วยตัวทำละลายที่แตกต่างกัน ทำให้ได้สารที่ออกฤทธิ์นั่นแตกต่างกัน และรากแครอทและเบบี้แครอทมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการนำรากแครอทและเบบี้แครอท ไปใช้ในการพัฒนาอาหารเสริมสำหรับป้องกันเบาหวาน หรือพัฒนายาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานได้