Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินค่ากำลังแรงยึดแบบผลักของเดือยฟันเส้นใยควอตซ์ที่ผ่านการปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนำฟันกรามน้อยล่างแท้ซี่ที่หนึ่งของมนุษย์ที่ถอนออกมาจำนวน 35 ซี่ มาตัดส่วนตัวฟันออก ตัดตั้งฉากกับแนวแกนฟันที่บริเวณรอยต่อของเคลือบฟันกับเคลือบรากฟัน รักษาคลองรากฟันและเตรียมช่องว่างสำหรับใส่เดือยฟันเส้นใยควอตซ์ (ดีทีไลท์โพสต์เบอร์ 1) แบ่งเดือยฟันออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 กลุ่มควบคุม ไม่ได้ปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ กลุ่มที่ 2 ถึง กลุ่มที่ 7 แบ่งตามความเข้มข้นและระยะเวลาที่ใช้สำหรับปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ยึดเดือยฟันกับคลองรากฟันที่เตรียมไว้ด้วยสารยึดติด (เอ็กไซท์ ดีเอสซี) ร่วมกับเรซินคอมโพสิตเหลว (มัลติคอร์โฟลว์) นำรากฟันแต่ละรากที่เตรียมไว้ตัดบริเวณที่ใส่เดือยฟันรากละ 6 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นมีความหนา 1 มิลลิเมตร เพื่อเป็นตัวแทนของรากฟันส่วนใกล้ตัวฟัน ส่วนกลาง และส่วนใกล้ปลายรากฟัน แล้วนำมาทดสอบค่ากำลังแรงยึดแบบผลักด้วยเครื่องทดสอบสากลยี่ห้ออินสตรอน วิเคราะห์ผลด้วยสถิติความแปรปรวนแบบสามทาง และวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยแบบจับคู่พหุคูณ แบบทูกีย์ ผลการทดลองพบว่าความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และระยะเวลาที่ใช้ในการปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันมีผลต่อค่ากำลังแรงยึดแบบผลัก ในขณะที่ระดับของคลองรากฟันไม่มีผล โดยการปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ความเข้มข้นร้อยละ 24 และ 30 นาน 10 นาที และที่ความเข้มข้นร้อยละ 35 นาน 5 นาที ให้ค่ากำลังแรงยึดแบบผลักสูงกว่ากลุ่มควบคุม แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่าง 3 กลุ่ม อย่างไรก็ตามการปรับสภาพพื้นผิวเดือยฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ความเข้มข้นร้อยละ 35 นาน 5 นาที ช่วยลดเวลาทำงานในคลินิก