Abstract:
งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาถึงนโยบายภาครัฐด้านการส่งเสริมการประกอบอาชีพของคนพิการ โดยเน้นศึกษาการประกอบอาชีพของคนพิการทางสายตา คำถามการวิจัยที่สำคัญคือ โอกาสด้านการประกอบอาชีพของคนพิการและคนพิการทางสายตาเป็นอย่างไรในสภาพการณ์ปัจจุบัน โอกาสด้านการประกอบอาชีพของคนพิการและคนพิการทางสายตาเป็นอย่างไรในสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยได้นำทฤษฎีทางการเมืองที่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน การจัดสรรในสังคม การส่งเสริมความเสมอภาค ตลอดจนทฤษฎีผู้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ มาใช้เพื่อเป็นกรองในการวิเคราะห์ งานวิจัยนี้อาศัยวิธีการศึกษาเชิงคุณภาพและการพรรณนาเป็นหลัก ประกอบกับการสำรวจข้อมูลคนพิการแบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง ผลการศึกษาวิเคราะห์ที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ คือ นโยบายภาครัฐยังคงขาดซึ่งประสิทธิภาพในการส่งเสริมโอกาสในการประกอบอาชีพของคนพิการ โดยนโยบายดังกล่าวยังมีลักษณะค่อนข้างกว้าง ซึ่งเป็นผลให้ความต้องการจำเป็นของคนพิการแต่งละเภทไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุนี้ คนพิการในประเทศไทยจึงยังถูกจำกัดโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพอยู่ แม้แต่การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลของคนพิการเองก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลในทางลบต่อสิทธิและศักดิ์ศรีของคนพิการ และสุดท้าย การศึกษาวิจัยครั้งนี้ยังพบด้วยว่า ในทางปฏิบัติแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยังมีการจำกัดโอกาสการจ้างงานคนพิการ โดยเฉพาะคนพิการทางสายตา จากผลการศึกษาวิเคราะห์ข้างต้น งานวิจัยนี้จึงได้เสนอให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงนโยบายภาครัฐที่อาจกระทบต่อสิทธิและศักดิ์ศรีของคนพิการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนานโยบายเพื่อยกระดับการส่งเสริมอาชีพของคนพิการควรต้องได้รับการสนับสนุนในหลายด้าน โดยต้องคำนึงถึงความต้องการจำเป็นที่แตกต่างกัน อังเนื่องมาจากความพิการที่แตกต่างกัน อีกทั้งคนพิการยังต้องได้รับการส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพด้วย โดยหากสิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นได้จริงแล้ว เชื่อได้ว่านายจ้างเองก็จะมีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะปฏิเสธการรับคนพิการเข้าทำงาน