Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อศีกษาผู้ที่ได้รับประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์จากนโยบายเขตการค้าเสรีไทย-จีน เฉพาะพิกัด 07-08 เรื่องผัก และผลไม้ โดยการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้แนวความคิดและทฤษฏีชนชั้นนำ กลุ่มผลประโยชน์ การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล และเสรีนิยมใหม่เป็นกรอบในการวิเคราะห์งานวิจัยครั้งนี้ บนสมมติฐานที่ว่านโยบายเขตการค้าเสรีไทย-จีนส่งผลกระทบต่อเกษตรกรส่วนใหญ่ในเชิงลบ โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกพืชเมืองหนาว ส่วนผู้ที่ได้ประโยชน์คือเกษตรกรผู้ปลูกพืชเมืองร้อน และกลุ่มธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ เนื่องจากว่ากลุ่มธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่มีศักยภาพ ความพร้อมและอำนาจต่อรองกับภาครัฐ จนได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้คือเกษตรกรผู้ปลูกพืชผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ทุเรียน มังคุด และลิ้นจี่ และกลุ่มธุรกิจเอกชนอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย การศึกษาข้อมูลเอกสาร และการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกพืช ข้างต้น ผลการวิจัยพบว่า ภายใต้นโยบายเขตการค้าเสรีไทย-จีนนี้ได้ก่อให้เกิดผู้ที่เสียประโยชน์คือเกษตรกรผู้ปลูกพืชเมืองหนาวโดยเฉพาะเกษตรผู้ปลูกหอม กระเทียม แครอท เป็นต้น ซึ่งผลวิจัยพบว่าเกษตรเหล่านั้นต้องลดพื้นที่เพาะปลูกลง รวมถึงเลิกประกอบอาชีพในที่สุด ส่วนฝ่ายที่ได้รับประโยชน์คือ เกษตรกรผู้ปลูกพืชเมืองร้อน เช่นลำไย มังคุด ทุเรียน กล้วยขึ้น และกลุ่มธุรกิจเอกชนอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยสาเหตุที่ทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับผลประโยชน์นั้น เนื่องมาจากการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เดิมเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่แล้ว ดังนั้นศักยภาพ ความมั่งคงทางการเงิน ความพร้อมทางด้านต่างๆเช่นความพร้อมเกี่ยวกับข้อมูลการทำเขตการค้าเสรี การปรับตัว จึงมีมากกว่ากลุ่มอื่นๆเช่นกลุ่มเกษตรกร หรือกลุ่มผู้ประกอบการอยู่แล้ว เมื่อรวมกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์และประเทศจีนที่มีมาช้านานแล้ว ยิ่งทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ประโยชน์มากที่สุดจากเขตการค้าเสรีไทยจีนนี้ นอกจากนี้ ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ถือว่ากลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นกลุ่มหนึ่งที่สัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคณะรัฐบาลชุดนั้น โดยผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครือเจริญโภคภัณฑ์หลายคนสามารถเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองในตำแหน่งสำคัญๆได้ ซึ่งสายสัมพันธ์ตรงนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการเอื้อประโยชน์เพิ่มขึ้น จนกระทั่งได้รับประโยชน์