DSpace Repository

กระบวนการร่วมของโคอะเลสเซอร์ไฟฟ้าเคมี และอัลตราฟิลเตรชันสำหรับบำบัดน้ำเสียปนเปื้อนน้ำมัน

Show simple item record

dc.contributor.advisor พิสุทธิ์ เพียรมนกุล en_US
dc.contributor.author สุรีย์พร เบญจประดิษฐ์ en_US
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์ en_US
dc.date.accessioned 2015-06-24T06:22:21Z
dc.date.available 2015-06-24T06:22:21Z
dc.date.issued 2556 en_US
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/42900
dc.description วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556 en_US
dc.description.abstract งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบำบัดน้ำเสียปนเปื้อนน้ำมันตัดด้วยกระบวนการร่วมระหว่างกระบวนการโคอะเลสเซอร์ กระบวนการทางไฟฟ้าเคมี และกระบวนการอัลตราฟิลเตรชัน เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมีและปริมาณตะกอนเคมีที่เกิดขึ้นจากการกระบวนการบำบัด โดยทำการศึกษาผลกระทบของลักษณะและความสูงของชั้นตัวกลาง อัตราเร็วการไหลของน้ำเสีย ชนิดขั้วไฟฟ้าและความหนาแน่นของกระแสไฟฟ้า จากการทดลองพบว่าสภาวะการเดินระบบที่เหมาะสม คือ ใช้ตัวกลางโคอะเลสเซอร์รูปทรงกระบอกกลวง โดยวางแบบสุ่มจนมีความสูงของชั้นตัวกลาง 10 เซนติเมตรอัตราเร็วการไหลของน้ำเสีย 2 เซนติเมตรต่อวินาที ใช้ขั้วไฟฟ้าอะลูมิเนียม โดยมีระยะห่าง 3 เซนติเมตร และใช้ความหนาแน่นกระแสไฟฟ้า 10 แอมแปร์ต่อตารางเมตร และเมื่อน้ำเสียผ่านกระบวนการอัลตราฟิลเตรชันพบว่ากระบวนการร่วมให้ประสิทธิภาพบำบัด 99% เมื่อเติมแคลเซียมคลอไรด์ 2 กรัมต่อลิตร และเมื่อเติมแคลเซียมคลอไรด์ 6 กรัมต่อลิตร นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการเติมแคลเซียม 6 กรัมต่อลิตรจะทำให้เมมเบรนอุดตันเร็วและค่าความขุ่นของน้ำทิ้งจะสูงกว่าการเติมแคลเซียมคลอไรด์ต่ำๆ เนื่องจากแคลเซียมคลอไรด์สามารถทำลายเสถียรภาพและทำให้อนุภาคน้ำมันเกิดการรวมตัวกันเป็นอนุภาคขนาดใหญ่ได้จำนวนมาก โดยข้อดีของการเดินระบบด้วยกระบวนการร่วมคือ กระบวนการร่วมให้ประสิทธิภาพการกำจัดความขุ่นสูง โดยมีต้นทุนในการเดินระบบและใช้พลังงานต่ำ ตัวกลางโคอะเลสเซอร์ที่เลือกใช้หาซื้อได้ง่ายและราคาถูก กระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินระบบต่ำ ดังนั้นอายุการใช้งานของขั้วไฟฟ้าจึงเพิ่มขึ้น และไม่ก่อให้เกิดตะกอนเคมี en_US
dc.description.abstractalternative The Objective of this research was to study the treatment of cuttimg oily-wastewater by in order to reduce the problem of chemical usage and sludge production from treatment process. The effect of shape and depth of media coalescer, flow velocity of wastewater, electrode type and current density. The result showed that the highest removal efficiency of 99% was achieved at the optimal condition, which was the usage media of coalescer is turbula shape at the bed length of 10 cm with flow velocity of 2 cm/s and usage of 2 aluminium electrodes with 3 cm in distance between plates,with the current density of 10 A/m2 and dosage of CaCl2 2 g/l and CaCl2 6 g/l. Moreover, usage of CaCl2 6 g/l make membrane fouling was faster than CaCl2 2 g/l and the turbidity of drain water was higher than CaCl2 2 g/l. Because high CaCl2 dosage can destabilize and make oil droplet size was larger. The advantages in combined process are highest removal efficiency, low operation cost less power consumption which could result in longer lifetime of electrodes and less sludge production. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.370
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject น้ำเสีย -- การบำบัด
dc.subject การวิเคราะห์ทางเคมีไฟฟ้า
dc.subject Sewage -- Purification
dc.subject Electrochemical analysis
dc.title กระบวนการร่วมของโคอะเลสเซอร์ไฟฟ้าเคมี และอัลตราฟิลเตรชันสำหรับบำบัดน้ำเสียปนเปื้อนน้ำมัน en_US
dc.title.alternative COMBINED PROCESSES OF COALESCER, ELECTROCHEMISTRY AND ULTRAFILTRATION FOR TREATMENT OF OILY WASTEWATER en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor pisut.p@chula.ac.th en_US
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2013.370


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record