Abstract:
กิจการโทรคมนาคมเป็นกิจการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งได้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นบริการพื้นฐานในชีวิตประจำวันของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันไม่เพียงแต่ไว้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างกันเท่านั้น อันส่งผลให้ในปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยที่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องอาศัยคลื่นความถี่ซึ่งมีอยู่จำกัดในการให้บริการ จึงจำเป็นจะต้องมีการกำกับดูแลให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม ซึ่งการจะทำให้เกิดขึ้นได้ก็โดยอาศัยการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการ โดยที่การกำกับดูแลการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันมีทั้งลักษณะที่เป็นการกำกับดูแลเชิงเยียวยาและการกำกับดูแลเชิงป้องกัน วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงมุ่งศึกษาถึงความเหมาะสมของลักษณะการกำกับดูแลการแข่งขันสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสมต่อสภาพการแข่งขันในปัจจุบันหรือไม่เพียงใด
ผลการศึกษาพบว่าสภาพการแข่งขันในตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยในปัจจุบันยังคงมีปัญหาทางด้านอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ แต่ในขณะเดียวกันสภาพการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญทั้ง 3 รายซึ่งมีสภาพการแข่งขันที่รุนแรงทั้งในด้านของอัตราค่าบริการและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ส่งผลให้ตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่การแข่งขันที่มีประสิทธิภาพได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ศึกษาวิจัยจึงเสนอแนะว่าการกำกับดูแลของหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลจึงควรใช้ลักษณะการกำกับดูแลเชิงเยียวยาเป็นหลักโดยให้ระบบกลไกตลาดเป็นตัวกำหนดการแข่งขันเพื่อให้เกิดการแทรกแซงโดยหน่วยงานกำกับดูแลน้อยที่สุด และใช้ลักษณะการกำกับดูแลเชิงป้องกันเฉพาะในกรณีที่เป็นลักษณะเฉพาะของกิจการโทรคม เช่นในเรื่องของ การเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม การโรมมิ่ง และการให้บริการบนโครงข่ายเสมือน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยผู้ประกอบการรายใหม่ และการกำกับดูแลการควบรวมกิจการซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพการแข่งขันในเท่านั้น