Abstract:
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย 3 ประการคือ 1. เพื่อศึกษาสถานการณ์ความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากร การดำเนินโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซยาดานา 2. เพื่อศึกษาบทบาทของรัฐที่แสดงออกมาในการจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้ง 3. เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่กำหนดความสามารถที่ต่างกันของคู่ขัดแย้งในการมีอิทธิพลต่อการบรรลุเป้าหมายของอีกฝ่าย ในสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยใช้วิธีการวิจัยแบบวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่าความขัดแย้งกรณีโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซยาดานามีสาเหตุจาก 1. การมีปรัชญาการมองโลกที่แตกต่างกันระหว่างรัฐกับฝ่ายผู้คัดค้านโครงการ ในเรื่องมนุษย์กับธรรมชาติ ความหมายของการพัฒนา การชดเชยและทดแทนธรรมชาติ และภารกิจทางสังคม 2. การขาดกลไกและกระบวนการที่เหมาะสมในการจัดการความขัดแย้งของสังคมไทย 3. ความขัดแย้งในผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย ผลการวิจัยพบว่าเมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐได้ใช้วิธีการจัดการความขัดแย้งแบบดั้งเดิม คือ การใช้อำนาจรัฐเข้าบีบบังคับ การใช้กำลังเข้าจับคุม การข่มขู่ คุกคาม และระบบอุปถัมภ์ ซึ่งสะท้อนทัศนะของฝ่ายรัฐที่มองความขัดแย้งแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายคือ มองกลุ่มผู้สนับสนุนโครงการว่าเป็นพวกเดียวกับรัฐ ขณะที่ฝ่ายผู้ต่อต้านคัดค้านโครงการนั้นเป็นศัตรู ผลการวิจัยยังพบว่ามีการใช้สื่อมวลชนในสถานการณ์ความขัดแย้งอยู่สองระดับคือ สื่อมวลชนระดับชาติและสื่อมวลชนระดับท้องถิ่น โดยรัฐสามารถปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้คัดค้านเข้าไปมีบทบาทในการใช้สื่อทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นได้เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กลุ่มผู้คัดค้านใช้เวทีของหนังสือพิมพ์ข่าวสด ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ประชานิยมเป็นเวทีหลักในการต่อสู้ โดยมีข้อสังเกตว่าการที่รัฐเป็นผู้ควบคุมสื่อ และมีศักยภาพทางด้านการเงินและบุคลากรที่เหนือกว่า ทำให้รัฐสามารถถ่ายทอดแนวความคิดและกิจกรรมของกลุ่มตนให้เข้าถึงกลุ่มต่างๆ ในสังคมโดยผ่านสื่อมวลชน เพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับได้มากกว่าฝ่ายผู้ต่อต้านคัดค้านโครงการ