DSpace Repository

การเปลี่ยนแปลงค่าร้อยละการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยาทราสทูซูแมบ

Show simple item record

dc.contributor.advisor ณัฏฐดา อารีเปี่ยม
dc.contributor.author ชมพูนุท ประสงค์ผล
dc.contributor.author กรวิกา ตั้งจิตสมคิด
dc.contributor.author วิบูลย์ศรี สร้อยเสริมสิริ
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะเภสัชศาสตร์
dc.date.accessioned 2015-08-12T09:24:39Z
dc.date.available 2015-08-12T09:24:39Z
dc.date.issued 2555
dc.identifier.other Sepr 2/55 ค1.3
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44255
dc.description.abstract Trastuzumab เป็น Monoclonal antibody ที่ใช้เป็นยาเดี่ยวหรือยาเสริมสาหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มี การแสดงออกของโปรตีน HER2 มากกว่าปกติ อาการข้างเคียงที่สาคัญคือ มีผลลดการทางานของหัวใจ ซึ่งสามารถวัดการทางานที่ลดลงของหัวใจได้จากค่าร้อยละการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย (%LVEF) การศึกษานี้เป็นการวิจัย เชิงพรรณนาโดยทาการเก็บข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วย เพื่อศึกษาความชุกของการเกิดผลลดการทางาน ของหัวใจ และศึกษาปัจจัยเสี่ยงหรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งเสริมทาให้เกิดการลดลงของค่า %LVEF ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่ได้รับยา Trastuzumab ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2554 ในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ป่วยได้รับยา Trastuzumab จานวน 40 ราย ผู้วิจัยสามารถเข้าถึงเวชระเบียนและได้ข้อมูลประวัติการใช้ยาของผู้ป่วยได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน จานวน 20 ราย ผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ย 58.25+9.27 ปี ระยะของโรคมะเร็งอยู่ใน stage 3-4 และมี HER2 status 2+ ถึง 3+ จานวนรอบการรักษาด้วยยา Trastuzumab เฉลี่ยที่ผู้ป่วยได้รับคือ 21.31+10.14 รอบ พบความชุกของผู้ป่วยที่มี %LVEF ลดลง 13 จาก 20 รายหรือคิดเป็นร้อยละ 65 ค่าเฉลี่ยของ %LVEF ที่ลดลงคือ 12.49+7.8 ในจานวนนี้มี 7 ราย (ร้อยละ 53.85) ที่มีค่า %LVEF ลดลงมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 10 ในจานวนนี้มี 1 รายที่ต้องหยุดใช้ยาเนื่องจากค่า %LVEF ลดลงจนน้อยกว่าร้อยละ 50 ผู้ป่วยที่เกิดผลข้างเคียงนี้มี อายุเฉลี่ย 59.38+9.34 ปี เป็นผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจาตัวอื่นเลย 6 ราย (ร้อยละ 46.15) และมีโรคความดันโลหิตสูงร่วมกับไขมันในเลือดผิดปกติ 5 ราย (ร้อยละ 38.46) ยาเคมีบาบัดที่ผู้ป่วยได้รับร่วมกับยา Trastuzumab ส่วนใหญ่คือสูตร AC->T ซึ่งได้แก่ Doxurubicin+Cyclophosphamide+Paclitaxel มีจานวน 6 ราย (ร้อยละ 46.15) ข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า ผลลดการทางานของหัวใจเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยา Trastuzumab และผู้ป่วยที่มีอาการไม่พึงประสงค์นี้ส่วนใหญ่เคยได้รับเคมีบาบัดสูตร AC->T en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject เต้านม -- มะเร็ง -- การรักษา en_US
dc.subject ยาทราสทูซูแมบ -- ผลข้างเคียง en_US
dc.subject Trastuzumab -- Side effects en_US
dc.title การเปลี่ยนแปลงค่าร้อยละการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยาทราสทูซูแมบ en_US
dc.title.alternative Percentage changes of left ventricular ejection fraction in breast cancer patients received trastuzumab en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor ไม่มีข้อมูล


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

  • Pharm - Senior projects [100]
    โครงการปริญญานิพนธ์ คณะเภสัชศาสตร์

Show simple item record