Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ เพื่อศึกษาทัศนคติของแพทย์ ข้าราชการและผู้มีสิทธิต่อระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลรวมถึงวิเคราะห์งบประมาณด้านการรักษาพยาบาลทั้งก่อนและหลังการใช้ระบบเบิกจ่ายตรงภายใต้หนังสือเวียนของกรมบัญชีกลาง พร้อมทั้งหาค่าคาดหวังค่ารักษาพยาบาลทั้งคนไข้นอกและคนไข้ใน เพื่อคำนวณการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่อัตราต่างๆ โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างแพทย์และข้าราชการ และข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิสวัสดิข้าราชการของโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ผลการศึกษาสรุปได้ว่าระบบเบิกจ่ายตรงสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ที่ได้นำมาใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน พบว่ารัฐบาลต้องรับภาระค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี โดยในปีพ.ศ.2555 รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 61,314 ล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลจึงมีแนวคิดในการควบคุมค่าใช้จ่ายโดยการจำกัดการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่มีราคาแพง 9 ประเภท รวมทั้งมีการเสนอแนวคิดการร่วมจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ได้ผลการศึกษาจากการทำแบบสอบถามแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน พบว่าแพทย์ร้อยละ 70.97 เห็นด้วยกับการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล ในขณะที่ข้าราชการที่เห็นด้วยกับการร่วมจ่ายมีเพียงร้อยละ 43.33 ทั้งนี้เมื่อใช้ฐานข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิสวัสดิการข้าราชการของโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ข้อมูลผู้ป่วยนอกปีพ.ศ.2552-53 และปีพ.ศ.2556-58 ข้อมูลผู้ป่วยในปีงบประมาณ 2553-54 และ 2557 ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ข้อมูลมีการแจกแจงแบบ lognormal ที่มีค่าคาดหวังค่าใช้จ่ายเป็นตัวกลางของข้อมูลที่เหมาะสม พบว่าค่าคาดหวังค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกปีพ.ศ.2557 คิดเป็น 1,476.14 บาท หากกำหนดให้มีการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลร้อยละ 20 จะทำให้ข้าราชการต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลคิดเป็น 295.24 บาทต่อครั้งของการใช้บริการ ในขณะที่ค่าคาดหวังค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในปีงบประมาณ 2557 คิดเป็น 11,136.29 บาท หากกำหนดให้มีการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลร้อยละ 20 จะทำให้ข้าราชการต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 2,227.12 บาทต่อครั้งของการนอนโรงพยาบาล