Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาการขัดกันของบทบัญญัติขององค์การการค้าโลก (WTO) กับความตกลงพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อม (MEAs) ที่เกี่ยวกับการระงับข้อพิพาททางการค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของ WTO กับการใช้ MEAs ในการระงับข้อพิพาท ในกรณีที่คู่พิพาทต่างก็เป็นภาคีทั้งสองความตกลง WTO ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดของสำนักการค้าเสรีนิยม และรับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้มีการออกบทบัญญัติที่เกี่ยวกับระเบียบการค้าเสรี เช่น การไม่เลือกปฏิบัติ MFN หรือ NT เป็นต้น และมีการกำหนดข้อยกเว้นเพื่อการดำเนินมาตรการสิ่งแวดล้อมไว้ในมาตรา 20 (บี) และ 20 (จี) ในขณะที่ MEAs ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดสำนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงได้มีการกำหนดบทบัญญัติในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรวมถึงให้สิทธิภาคีในการออกมาตรการทางการค้า โดยเฉพาะการยอมรับหลักระมัดระวังมาใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตน ซึ่งจากกรอบแนวความคิดที่แตกต่างนี้จะนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดข้อพิพาททางการค้าที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง WTO ก็มีขอบเขตการพิจารณาเพียง Covered Agreements ตามที่กำหนดใน DSU จากการศึกษา พบว่า บทบัญญัติการค้าเสรีของ WTO มีการขัดกันกับบทบัญญัติ MEAs ในความหมายกว้าง ซึ่งแม้ว่า แนวคำตัดสินของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท และองค์กรอุทธรณ์จะมีความยืดหยุ่น และสอดคล้องกันมากขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ WTO กับ MEAs มีความสอดคล้องกันมากขึ้น ดังนั้น WTO จึงควรปรับบทบาทในการแสวงหาความร่วมมือกับความตกลงระหว่างประเทศอื่นๆ และปรับบทบัญญัติมาตรา 20 ให้รองรับมาตรการสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับมลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ในขณะที่การระงับข้อพิพาทควรนำหลักการตีความในมาตรา 31.3 ของ VCLT มาปรับใช้ และปรับบทบัญญัติของ DSU ในกรณีที่คู่พิพาทเป็นภาคีของทั้งสองความตกลง