dc.contributor.advisor |
อรัญญา ตุ้ยคำภีร์ |
|
dc.contributor.author |
กันต์กนิษฐ์ ซอยสกุล |
|
dc.contributor.author |
ขวัญฤทัย ช่างสลัก |
|
dc.contributor.author |
ณัฐติกา จันทร์เทาว์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา |
|
dc.date.accessioned |
2016-06-08T23:24:00Z |
|
dc.date.available |
2016-06-08T23:24:00Z |
|
dc.date.issued |
2555 |
|
dc.identifier.other |
Psy 196C |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48390 |
|
dc.description |
โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2555 |
en_US |
dc.description |
A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2012 |
en_US |
dc.description.abstract |
การศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตราบาป การเผชิญปัญหา และเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาในพนักงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตราบาป การเผชิญปัญหาทั้ง 3 รูปแบบ (แบบมุ่งจัดการกับปัญหา แบบแสวงหาความช่วยเหลือ และแบบหลีกเลี่ยงปัญหา) และเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาในพนักงาน จำนวน 198 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ มาตรวัดการรับรู้ตราบาปของตนเอง, มาตรวัดการเผชิญปัญหา 3 แบบ (แบบมุ่งจัดการกับปัญหา แบบแสวงหาความช่วยเหลือ และแบบหลีกเลี่ยงปัญหา) และมาตรวัดเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. การรับรู้ตราบาปของพนักงานมีสหสัมพันธ์ทางลบกับเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 2. การเผชิญปัญหาแบบมุ่งจัดการกับปัญหา และการแสวงหาแหล่งสนับสนุน ไม่มีสหสัมพันธ์ทางบวกกับเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา 3. การเผชิญปัญหาแบบหลีกเลี่ยงปัญหาไม่มีสหสัมพันธ์ทางลบกับเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา 4. การรับรู้ตราบาปและการเผชิญปัญหา ทั้ง 3 แบบสามารถร่วมกันทำนายเจตคติในการ แสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาของพนักงานได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 โดยตัวแปรดังกล่าวทำนายความสุขได้ร้อยละ 30.2 |
en_US |
dc.description.abstractalternative |
This study aimed to examine relationship among perceived stigma, coping, and professional help seeking attitudes of employees. Participants included 198 employees. The instruments were 1) Perceived Self - stigma Scale 2) Coping Scale and 3) Attitude Toward Help Seeking Scale. Data were analyzed by using pearson’s correlation and multiple regression Results showed that: 1. Perceived Self - stigma of employees was negatively relate to attitude toward help seeking (r = -.54, p < .001 ). 2. Problem – focused coping and seeking support was not positively relate to attitude toward help seeking 3. Avoidance coping was not negatively relate to attitude toward help seeking 4. Perceived Self - stigma and coping style including problem – focused coping, seeking support, and avoidance significantly predicted attitude toward help seeking in employees for 30.2 percent of the total variance of attitude toward |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
การปรับตัว (จิตวิทยา) |
en_US |
dc.subject |
นักจิตวิทยา |
en_US |
dc.subject |
Adjustment (Psychology) |
en_US |
dc.subject |
Psychologists |
en_US |
dc.title |
ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตราบาป การเผชิญปัญหา และเจตคติในการแสวงหาความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาในพนักงาน |
en_US |
dc.title.alternative |
RELATIONSHIPS AMONG PERCEIVED STIGMA, COPING, AND PROFESSIONAL HELP SEEKING ATTITUDES OF EMPLOYEES |
en_US |
dc.type |
Senior Project |
en_US |
dc.email.advisor |
arunya.t@chula.ac.th |
|