Abstract:
งานวิจัยนี้ศึกษาผลของความเข้มข้นของซัลเฟตต่ออัตราการและประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟตในถังกรองไร้อากาศ และอัตราและประสิทธิภาพการบำบัดซัลไฟด์ในถังโปรยกรอง โดยทำการทดลองในระบบแบทช์และแบบไหลต่อเนื่อง ในระบบแบทช์ใช้ความเข้มข้นโดยใช้ซัลเฟต 100 200 500 1,000 และ 1,500 มิลลิกรัมซัลเฟต-ซัลเฟอร์ต่อลิตร รวมทั้งศึกษาอัตราการเวียนน้ำและค่าออกซิเจนละลาย (DO) ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนรูปจากซัลไฟด์เป็นซัลเฟอร์ ส่วนการทดลองแบบไหลต่อเนื่องทำการศึกษาประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟต ประสิทธิภาพการบำบัดซัลไฟด์ และประสิทธิภาพการเปลี่ยนรูปเป็นซัลเฟอร์ในถังโปรยกรองที่มีปริมาณตัวกลางแตกต่างกันในถังโปรยกรอง ผลการทดลองพบว่าถังกรองไร้อากาศที่ควบคุมพีเอช 8.0-8.5 มีอัตราการบำบัดซัลเฟตเป็นไปตามสมการโมนอด (Monod’s Kinetic) ซึ่งมีค่า km เท่ากับ 139±19 มิลลิกรัมซัลเฟต-ซัลเฟอร์ต่อลิตรต่อวัน และมีค่า Ks เท่ากับ 190±97 มิลลิกรัมซัลเฟต-ซัลเฟอร์ต่อลิตร และถังโปรยกรองที่ควบคุมพีเอช 8.5-9.5 ค่า DO อยู่ที่ 0.07-0.10 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถบำบัดซัลไฟด์ที่มีความเข้มข้น 55-375 มิลลิกรัมซัลไฟด์-ซัลเฟอร์ต่อลิตร เป็นไปตามสมการโมนอดซึ่งมีค่า km เท่ากับ 145±34 มิลลิกรัมซัลไฟด์-ซัลเฟอร์ต่อลิตรต่อวัน และมีค่า Ks เท่ากับ 79±49 มิลลิกรัมซัลไฟด์-ซัลเฟอร์ต่อลิตร ประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟตและซัลไฟด์ เท่ากับ 15.09% และ100% ตามลำดับ โดยใช้อัตราการเวียนน้ำ 130 ลิตรต่อชั่วโมง และ 30 ลิตรต่อชั่วโมง มีประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟตและ เท่ากับ 36.66% และ 100% ตามลำดับ ส่วนที่ใช้อัตราการเวียนน้ำ 2.7 ลิตรต่อชั่วโมง มีค่า km เท่ากับ 97±54 มิลลิกรัมซัลไฟด์-ซัลเฟอร์ต่อลิตรต่อวัน และมีค่า Ks เท่ากับ 266±341 มิลลิกรัมซัลไฟด์-ซัลเฟอร์ต่อลิตร มีประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟตและซัลไฟด์ 61.09% และ 94.97% ตามลำดับ จึงสรุปได้ว่าการใช้อัตราการเวียนน้ำของถังโปรยกรองให้ต่ำทำให้ซัลไฟด์สามารถเปลี่ยนรูปเป็นซัลเฟอร์ได้มากกว่าการใช้อัตราการเวียนน้ำสูง ผลการทดลองแบบไหลต่อเนื่องในการบำบัดซัลเฟตที่ความเข้มข้น 500 มิลลิกรัมซัลเฟต-ซัลเฟอร์ต่อลิตร ของถังกรองไร้อากาศที่ควบคุมพีเอชอยู่ในช่วง 8.0-8.5 มีอัตราการไหล 9.5 ลิตรต่อวัน และถังโปรยกรองที่ควบคุมอัตราการเวียนน้ำ 2.7 ลิตรต่อชั่วโมง ที่มีปริมาณตัวกลาง 0-100 200 และ 350 ชิ้น มีประสิทธิภาพการบำบัดซัลไฟด์ เท่ากับ 61.37% 79.71% และ 83.26% ตามลำดับ จึงสรุปได้ว่าปริมาณตัวกลางหรือพื้นผิวในถังโปรยกรองไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการบำบัดซัลเฟต แต่มีผลต่อประสิทธิภาพการบำบัดการบำบัดซัลไฟด์และการเปลี่ยนรูปเป็นซัลเฟอร์
