Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยและกลไกที่นำไปสู่วัตถุนิยม เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความนิยมความสมบูรณ์แบบและวัตถุนิยม โดยงานวิจัยนี้มุ่งศึกษาอิทธิพลของความนิยมความสมบูรณ์แบบต่อวัตถุนิยม ซึ่งงานวิจัยนี้มีสมมติฐานว่า ความนิยมความสมบูรณ์แบบมีอิทธิพลทางบวกต่อวัตถุนิยม โดยมีการนำเสนอตนเองด้วยความสมบูรณ์แบบและการเพิ่มคุณค่าให้ตนเองเป็นตัวแปรส่งผ่าน กลุ่มตัวอย่างคือ นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของรัฐ และเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 380 คน ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม 4 อย่าง ได้แก่ มาตรวัดความนิยมความสมบูรณ์แบบ มาตรวัดการเพิ่มคุณค่าให้ตนเอง มาตรวัดการนำเสนอตนเองด้วยความสมบูรณ์แบบ และมาตรวัดความเป็นวัตถุนิยม การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปตามข้อตกลงเบื้องต้นของ SEM เมื่อเปรียบเทียบโมเดลหลักกับโมเดลทางเลือก โดยเปรียบเทียบจากค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ (R2) ค่าไค-สแควร์ต่อองศาอิสระ และความแตกต่างระหว่างสถิติไค-สแควร์ พบว่า โมเดลทางเลือกสามารถทำนายวัตถุนิยมได้ดีกว่าโมเดลหลัก โดยผลการวิเคราะห์สมการเชิงโครงสร้างพบว่าความนิยมความสมบูรณ์แบบสามารถทำนายวัตถุนิยมได้โดยความนิยมความสมบูรณ์แบบมีอิทธิพลทางอ้อมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับวัตถุนิยม โดยผ่านการนำเสนอตนเองด้วยความสมบูรณ์แบบ และการเพิ่มคุณค่าให้ตนเองเป็นตัวแปรส่งผ่าน แต่ไม่พบอิทธิพลทางตรงของความนิยมความสมบูรณ์ต่อวัตถุนิยม ซึ่งทำให้โมเดลนี้มีอิทธิพลส่งผ่านแบบสมบูรณ์ (full mediation effects)