DSpace Repository

พัฒนาการของมหาวิทยาลัยไทย พ.ศ. 2459-2500

Show simple item record

dc.contributor.advisor ปิยนาถ บุนนาค
dc.contributor.author สมโชติ วีรภัทรเวธ
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะอักษรศาสตร์
dc.date.accessioned 2016-12-29T11:34:26Z
dc.date.available 2016-12-29T11:34:26Z
dc.date.issued 2550
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/51469
dc.description วิทยานิพนธ์ (อ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550 en_US
dc.description.abstract ศึกษาเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพัฒนาการของมหาวิทยาลัยไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459-2500 โดยเน้นการศึกษาใน 3 ด้านคือ แนวคิดและความเป็นมา รูปแบบโครงสร้างของกระบวนการจัดการศึกษา และผลของการจัดการศึกษา จากการศึกษาพบว่า มหาวิทยาลัยไทยได้มีจุดกำเนิดและแนวคิดมาจากความมุ่งหมายในการผลิตคน เพื่อเข้ารับราชการในหน่วยงานของรัฐอันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก การปฏิรูปการปกครองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2435 โดยมีที่มาจากการผสมผสานแนวความคิดที่ได้จากการศึกษาดูงานจากต่างประเทศ แล้วนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสังคมไทย โดยนำแนวคิดสำคัญมาจากญี่ปุ่นและอินเดีย ซึ่งผ่านการรับและถ่ายทอดมาจากตะวันตกอีกทอดหนึ่ง ในขั้นต้นมหาวิทยาลัยไทยได้ขยายงานจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้ขยายงานจากการผลิตคนเข้ารับราชการ เพื่อเป็นการเรียนการสอนแบบตลาดวิชาเพื่อขยายความมุ่งหมายให้กว้างออกไป จึงได้ทำการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้น แต่ปรากฏว่าผลจากการเรียนการสอนในระยะแรกนั้นมีอุปสรรคที่สำคัญคือ ด้านงบประมาณ หลักสูตร ความไม่เหมาะสมของสถานที่และการขาดแคลนบุคลากร จึงทำให้การเรียนการสอนในระยะแรกยังไม่ถึงขั้นปริญญาตรี ภายหลังที่ได้มีการเจรจาความร่วมมือระหว่างมูลนิธิร็อคกีเฟลเลอร์กับรัฐบาลไทย จึงทำให้สามารถจัดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตได้สำเร็จเป็นปีแรก ใน พ.ศ. 2466 จนมีผู้สำเร็จการศึกษาครั้งแรกใน พ.ศ. 2471 อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยยังคงมีภารกิจหลักทางด้านการสอน ผู้สำเร็จการศึกษาส่วนมากก็ยังคงเข้ารับราชการเป็นสำคัญ ยกเว้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่สามารถเข้าทำงานในบริษัทเอกชนได้ด้วย กิจกรรมนิสิตในช่วงเวลานี้ยังเน้นทางด้านความบันเทิงและกีฬาเป็นหลัก หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จึงได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านกฎหมาย การเมืองการปกครอง ให้แพร่หลายสู่ประชาชนเพื่อรองรับต่อระบบการปกครอง ในเวลานี้มหาวิทยาลัยได้มีรูปแบบโครงสร้างที่อิสระมากขึ้น จึงทำให้สามารถพัฒนาการศึกษาไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น จนทำให้มีการขยายการเรียนการสอนทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพของทั้งสองมหาวิทยาลัย และยุคนี้นิสิตนักศึกษาได้เริ่มเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมทางการเมืองมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อขยายงานตามความมุ่งหมายของรัฐในเฉพาะด้านตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งปรากฏว่าการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยศิลปากรและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น ยังไม่ก้าวหน้ามากนักเพราะอยู่ในช่วงระหว่างการก่อตั้งและขาดแคลนงบประมาณ ส่วนมหาวิทยาลัยที่ตั้งมาก่อนหน้านั้น สามารถดำเนินงานไปได้อย่างก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ en_US
dc.description.abstractalternative To study the history and development of university in Thailand since B.E. 2459-2500 by focusing on 3 aspects include concept and background, form of structure of the educational planning and the result of the educational planning. The study found that the original intention and concepts of university in Thailand came from the aim to produce capable personnel to work in the public sector which was the result of the state reformation in the reign of King Chulalongkorn, B.E. 2435. This educational concept adapted from other country, the significant concept was mixed from Japan and India by developing educational system from European country. At the beginning, Thai university was upgraded from the Royal Pages School to the Civil Service College. After that, King Vajiravudh desire to expand the duty of the school, not only to served the public sector but also expanding more disciplines so as to spread variety of knowledge to serve other sector, therefore, he established Chulalongkorn University. The education in University had important obstacles at the beginning, such as financial budget, course, unsuitable place and skillful staffs that made the education unsuccessful. Then, after the co-operation of Thai government and The Rockefeller Foundation, the Medical Education Program first started in B.E. 2466. The first graduated students were in B.E. 2471. However, Chulalongkorn University has the principle missions in producing civil servant and almost graduated students still working in the public sector except graduated students from Engineering Program who also capable work in the privet sector. The student activities at this period, focusing on entertainment and sport. After the establishment of constitutional monarchy, Thammasat University was established to spread the knowledge of Law and Politic to Thai citizen. In this period, the structure of university are more independent that result in the rapidly of educational development of Chulalongkorn University and Thammasat University in both quantity and quality and the students began to play important role and participation in Politic. After the World War II, Medical University, Kasetsart University and Silpakorn University were established to expanded knowledge follow up the state policy. The administration of Kasetsart University and Silpakorn University had less progression because they had just established and they had less financial budget, while the university that established before had better progression both in quantity and quality. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2007.641
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject สถาบันอุดมศึกษา -- ไทย -- ประวัติ en_US
dc.subject การศึกษาขั้นอุดมศึกษา -- ไทย -- ประวัติ en_US
dc.subject Universities and colleges -- Thailand -- History en_US
dc.subject Education, Higher -- Thailand -- History en_US
dc.title พัฒนาการของมหาวิทยาลัยไทย พ.ศ. 2459-2500 en_US
dc.title.alternative Development of Thai universities, 1917-1957 en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name อักษรศาสตรมหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline ประวัติศาสตร์ en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor Piyanart.B@Chula.ac.th
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2007.641


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record