Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและหาลักษณะเด่นในนวนิยายแนวสืบสวนสอบ สวนของกิ่งฉัตร โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนของกิ่งฉัตรในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ พ.ศ.2536 จนถึง พ.ศ.2549 จำนวน 12 เรื่อง ได้แก่ มายาตะวัน ด้วยแรงอธิษฐาน เพรงเงา ดั่งไฟใต้น้ำ มนต์จันทรา ลางลิขิต รอยพรหม สืบลับรหัสลับ พรายปรารถนา รหัสหัวใจ ฟ้ากระจ่างดาว และ แกะรอยรัก จากการวิจัยพบว่า นวนิยายทั้ง 12 เรื่องของกิ่งฉัตรมีคุณค่าในฐานะเป็นนวนิยายในแนวสืบสวนสอบสวนอย่างครบถ้วน กล่าวคือ ทุกเรื่องจะนำเสนอปมอาชญากรรมที่หลากหลาย เช่น คดีฆ่าข่มขืน คดีลอบยิง คดีวางระเบิด คดีวางยาพิษ คดีฆาตกรรม การค้าโสเภณี การค้ายาเสพติด เป็นต้น การดำเนินเรื่องในนวนิยายมีความสนุกสนาน ระทึกใจ ชวนติดตาม ในขณะเดียวกันกิ่งฉัตรก็สร้างโครงสร้างโดยผสมผสานแนวความรักเข้ามาด้วยอย่าง เหมาะสมกลมกลืน กล่าวคือ เมื่อเปิดเรื่องด้วยปมปัญหาของคดีอาชญากรรมแล้ว กิ่งฉัตรจะสร้างให้ตัวละครเอกฝ่ายชายและตัวละครเอกฝ่ายหญิงเข้ามามีบทบาทใน การสืบค้นข้อมูลร่วมกัน ในระหว่างนี้ทั้งสองก็พัฒนาเรื่องของความรักคู่ขนานกันไปกับการคลี่คลายคดี อาชญากรรม นับตั้งแต่เปิดเรื่องด้วยปัญหาคดีอาชญากรรมที่น่าสงสัยแล้ว กิ่งฉัตรมักสร้างความไขว้เขวโดยให้มีตัวละครที่น่าสงสัยหลายตัว โดยตัวละครเหล่านั้นต่างก็มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ในการก่ออาชญากรรมทั้งสิ้น หรือมิฉะนั้นก็มีการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อ่านไปจากตัวละครที่ก่อ อาชญากรรมที่แท้จริงโดยการสร้างตัวละครให้มีบุคลิกตรงข้ามกับพฤติกรรมที่ยัง ไม่เปิดเผย กิ่งฉัตรมีวิธีกระตุ้นความน่าสนใจและน่าติดตามอีกหลายวิธี เช่น เปิดเผยข้อมูลให้ผู้อ่านรับรู้ทีละน้อย จนกระทั่งในตอนท้ายของทุกเรื่องมีการคลี่คลายเรื่องแบบพลิกความคาดหมาย กล่าวคือ ฆาตกรมักเป็นคนที่คาดไม่ถึงหรือไม่คาดคิดว่าจะเป็นฆาตกรได้ นับเป็นการสร้างความน่าตื่นเต้นที่ได้ผลดีที่สุดอีกวิธีหนึ่งในด้านการสร้าง ตัวละคร กิ่งฉัตรได้สร้างตัวละครที่เป็นบุคคลทั่วไปมีอาชีพที่หลากหลายให้มีบทบาทใน การเข้าไปสืบค้นข้อมูลได้อย่างสมจริง บางเรื่องก็นำเสนอตัวละครที่มีบุคลิกลักษณะที่แปลกกว่าคนธรรมดาหรือมีความ สามารถพิเศษเหนือมนุษย์ ตลอดจนบางเรื่องก็มีวิญญาณของผู้ถูกฆาตกรรมเข้ามามีบทบาทด้วย ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้มากขึ้น นอกจากนี้แล้วกิ่งฉัตรมักนำเสนอแนวคิดที่มีความหลากหลายและมีสารประโยชน์ไว้ ในตัวเรื่อง ได้แก่ แนวคิดด้านการทำงาน ความรัก ครอบครัว การเมือง ปัญหาสังคม ที่น่าสังเกตคือทุกเรื่องจะสรุปความคิดท้ายเรื่องได้ว่าคนที่กระทำผิดหรือ ทุจริตจะต้องได้รับโทษ เช่น เสียชีวิต เสียสติ หรือถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนฉากและบทสนทนานั้นมักจะมีความสอดคล้องและสร้างความสมจริงให้กับเนื้อ เรื่องได้เป็นอย่างดี และยังสามารถเสริมความน่าสนใจให้กับเรื่องได้มากขึ้น ส่วนการใช้ภาษานั้น เป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่ง กิ่งฉัตรใช้ภาษาได้ดี มีความราบรื่น และสละสลวย ในขณะเดียวกันก็สื่อความหมายได้กระจ่างชัดเจน ทั้งนี้กิ่งฉัตรมักเลือกสรรคำเข้ามาขยายได้อย่างเหมาะสมและมีการนำความ เปรียบที่น่าสนใจเข้ามาใช้ ทำให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพหรือความรู้สึกคล้อยตาม น่าสังเกตว่า การผสมผสานเรื่องของอาชญากรรมกับความรักเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน ทำให้ความรุนแรงจากคดีอาชญากรรมนั้นดูเบาบางลง ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้อย่างดียิ่ง ประกอบกับลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้นวนิยายของกิ่งฉัตรสนุกสนาน เร้าใจ ชวนติดตามและยังสร้างความรื่นรมย์อย่างพอเหมาะพอดีตลอดทั้งเรื่อง