Abstract:
ผลการศึกษาด้านชีวประวัติ และผลงานของพรเทพ พรทวี ทำให้ทราบว่าพรเทพ พรทวีนั้นเป็นศิลปินที่ได้เรียนรู้ และได้รับการถ่ายทอดศิลปะการแสดงมาจากบิดา ครูอาจารย์ และยังได้สั่งสมประสบการณ์มาเป็นเวลายาวนาน จนสามารถแสดงออก เผยแพร่สู่ประชาชนให้ซาบซื้งถึงคุณค่าของศิลปะพื้นบ้านแขนงนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ มีการสร้างสรรค์ ประยุกต์ผลงานให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสถานการณ์และยุคสมัยจนเป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และยังเป็นผู้ฝึกหัด สืบทอดศิลปะการแสดงลิเกให้แก่ลูกหลาน และเยาวชนผู้สนใจจำนวนมาก ผลการศึกษาด้านองค์ประกอบและรูปแบบในการแสดง ลิเกของคณะพรเทพ พรทวี ครั้งนี้ทำให้ทราบว่าคณะพรเทพ พรทวี มีองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานการแสดงออกมาได้จนเป็นที่ประทับใจของผู้ชมอย่างมาก ได้แก่ บุคลากรผู้ร่วมงานฝ่ายต่างๆ ในคณะ ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง การร้อง การเจรจา และการรำ เนื้อเรื่องที่ใช้ในการแสดงแต่ละครั้ง เครื่องแต่งกาย เวที ฉาก แสง สี เสียง รวมทั้งระบบการบริหารจัดการด้วย ลิเกคณะพรเทพ พรทวีนั้น มีรูปแบบการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งประกอบด้วยขนบ และความเชื่อเกี่ยวกับการแสดง เช่น มีการไหว้ครูก่อนการแสดงลิเก การจัดพิธีไหว้ครูประจำปี การแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส และความเชื่อเกี่ยวกับการสร้างความนิยมแก่คนดู สำหรับวิธีการและขั้นตอนการแสดงของคณะนั้น เริ่มต้นด้วยการโหมโรง การรำถวายมือ การออกแขก การแสดง และจบลงด้วยการลาโรง ผลการวิจัย พบว่าเพลงรานิเกลิง ของลิเกคณะพรเทพ พรทวี เป็นเพลงที่มีความไพเราะกลอนเพลงจัดอยู่ในระดับกลางไม่โลดโผนมากนัก เพลงรานิเกลิง เป็นบทเพลงเฉพาะที่มีปรากฏอยู่แต่ในการแสดงลิเกเพียงเท่านั้น ใช้สำหรับบรรเลงนำหรือส่งร้อง และบรรเลงรับร้องตอนท้าย จัดว่ามีความเหมาะสมอย่างกลมกลืน ก่อให้เกิดความไพเราะมีความนุ่มนวลเข้มข้นในกลอนเพลง และมีความหลากหลาย จึงประจักษ์ได้ว่า เพลงรานิเกลิงเป็นผลงานที่ดีต่อการดนตรีไทย ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์ยิ่งสืบไป