Abstract:
วัตถุประสงค์การวิจัยนี้คือประเมินความลึกรอยผุ ความหนาแน่นแร่ธาตุรอยผุชั้นเนื้อฟันและร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุระหว่างการใช้ซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์ วาร์นิชฟลูออไรด์ แก้วไอโอโนเมอร์ ร่วมกับยาสีฟันฟลูออไรด์เปรียบเทียบกับการใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์เพียงอย่างเดียว โดยวัดความลึกรอยผุ ความหนาแน่นแร่ธาตุรอยผุชั้นเนื้อฟันด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ระดับไมโครเมตร สุ่มแบ่งเป็นกลุ่มซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์ กลุ่มวาร์นิชฟลูออไรด์ กลุ่มแก้วไอโอโนเมอร์ ทั้งสามกลุ่มใช้ร่วมกับยาสีฟันฟลูออไรด์ กลุ่มยาสีฟันฟลูออไรด์ และกลุ่มควบคุม (น้ำปราศจากอิออน) นำรอยผุชั้นเนื้อฟันผ่านกระบวนการจำลองสภาวะการเปลี่ยนแปลงกรด-ด่างเป็นเวลา 5 วัน วัดความลึกรอยผุ ความหนาแน่นแร่ธาตุ วิเคราะห์หาร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ระดับไมโครเมตร ผลการศึกษาหลังกลุ่มซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์มีความลึกรอยผุเฉลี่ยลดลงและมีความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยเพิ่มขึ้น (p=0.045 และ p=0.003 ตามลำดับ) กลุ่มที่แก้วไอโอโนเมอร์มีความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยเพิ่มขึ้น (p=0.013) ความลึกรอยผุเฉลี่ยไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p=0.160) กลุ่มวาร์นิชฟลูออไรด์ กลุ่มยาสีฟันฟลูออไรด์และกลุ่มควบคุมจะมีความลึกรอยผุเฉลี่ย (p=0.455, p=0.172 และ p=0.384 ตามลำดับ) และความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ย (p=0.424, p=0.722 และ p=0.929 ตามลำดับ) ไม่แตกต่างจากก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญ รอยผุชั้นเนื้อฟันทั้ง 5 กลุ่มมีค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุเฉลี่ยแตกต่างกัน (p<0.001) กลุ่มซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์มีร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยแตกต่างจากทุกกลุ่ม (p<0.001) และกลุ่มแก้วไอโอโนเมอร์มีร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยแตกต่างจากกลุ่มยาสีฟันฟลูออไรด์ 1000 ส่วนในล้านส่วนและกลุ่มควบคุม (p=0.018 และ p=0.015) ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05