dc.contributor.advisor |
วัชราภรณ์ ทัศจันทร์ |
|
dc.contributor.author |
วรัษฐา เทวบริรักษ์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะทันตแพทยศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2017-11-27T08:24:40Z |
|
dc.date.available |
2017-11-27T08:24:40Z |
|
dc.date.issued |
2557 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/56157 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2557 |
|
dc.description.abstract |
วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการตรวจสุขภาพเหงือกด้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภายหลังจากดูสื่อเรื่องโรคเหงือกอักเสบกับนักเรียนกลุ่มที่ไม่ได้ดูสื่อ วัสดุและวิธีการ การวิจัยกึ่งทดลอง (quasi-experimental research) ทำในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นักเรียนจำนวน 87 คน อายุเฉลี่ย 12.01 ± 0.87 ปี ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่ายแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มควบคุม 45 คน และกลุ่มทดลอง 42 คน นักเรียนตรวจสภาวะหินปูนและสุขภาพเหงือกของฟันหน้า 12 ซี่ ด้วยตนเองโดยใช้กระจกมือถือ (13 คะแนน) นักเรียนในกลุ่มทดลองจะได้ดูสื่อเรื่องโรคเหงือกอักเสบ เปรียบเทียบคะแนนระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง โดยใช้สถิติอินดีเพนเด็นท์ แซมเปิลส์ ที เทสต์ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษา ก่อนการทดลอง กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถในการตรวจสุขภาพเหงือก 4.80 ± 2.67 และ 4.9 ± 2.28 คะแนน ตามลำดับ ภายหลังการทดลอง กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถในการตรวจสุขภาพเหงือก 4.44 ± 2.85 และ 7.00 ± 2.58 คะแนน ตามลำดับ เปรียบเทียบระหว่าง 2 กลุ่ม พบว่าภายหลังการดูสื่อโสตทัศน์เรื่องเหงือกอักเสบ นักเรียนในกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถในการตรวจสุขภาพเหงือกมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) สรุป สื่อเรื่องโรคเหงือกอักเสบทำให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการศึกษาครั้งนี้สามารถตรวจสุขภาพเหงือกของตนเองได้ดีขึ้น |
|
dc.description.abstractalternative |
Objective: To compare the ability of seventh grade students viewing and not viewing media on gingivitis in self-detecting gingivitis. Materials and Methods: Quasi-experimental research was performed using seventh grade students in Amphoe Mueang, Kamphangphet Province as subjects. Eighty-seven participants (average age 12.01 ± 0.87 years) were randomly divided into a control group (45 subjects) and an experimental group (42 subjects). The calculus and gingival status of the twelve anterior teeth (13 points) were self-evaluated using a hand held mirror. Students in the experimental group viewed an audio-visual aid on gingivitis. The scores between the groups were compared using the Independent-samples t-test at a significance level of p < 0.05. Results: The average pre-test ability score of the control and experimental groups were 4.80 ± 2.67 and 4.9 ± 2.28, respectively. The average post-test ability score of the control and experimental groups were 4.44 ± 2.85 and 7.00 ± 2.58, respectively. The mean ability score of the experimental group after viewing the media on gingivitis was statistically higher than that of the control group (p < 0.001). Conclusion: Viewing media on gingivitis improved the ability to self-detect gingivitis of seventh grade students. |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.title |
ความสามารถในการตรวจสุขภาพเหงือกด้วยตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มหนึ่ง ภายหลังจากดูสื่อโสตทัศน์เรื่องโรคเหงือกอักเสบ |
|
dc.title.alternative |
ABILITY TO SELF - DETECT GINGIVITIS IN A GROUP OF SEVENTH GRADE STUDENTS AFTER VIEWING THE MEDIA ON GINGIVITIS |
|
dc.type |
Thesis |
|
dc.degree.name |
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
ทันตกรรมสำหรับเด็ก |
|
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.email.advisor |
Wacharaporn.T@Chula.ac.th,Wacharaporn.T@chula.ac.th |
|