dc.contributor.advisor | เรวดี วัฒฑกโกศล | |
dc.contributor.author | เพชรี ยังประภากร | |
dc.contributor.author | รักษ์พล สุระขันธ์ | |
dc.contributor.author | ลภัสรดา จันทร์รัศมี | |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา | |
dc.date.accessioned | 2017-11-27T08:46:15Z | |
dc.date.available | 2017-11-27T08:46:15Z | |
dc.date.issued | 2558 | |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/56169 | |
dc.description | โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2558 A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2015 | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติต่อพฤติกรรม อิทธิพลของกลุ่มอ้างอิง การรับรู้การควบคุมพฤติกรรม และบุคลิกภาพหรือพฤติกรรมความหุนหันพลันแล่น กับพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยตามทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน โดยกลุ่มตัวอย่างชายรักชาย อายุระหว่าง 17-28 ปี จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ มาตรวัดเจตคติต่อพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยทางตรงและทางอ้อม มาตรวัดการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงทางตรงและทางอ้อมมาตรวัดการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมทางตรงและทางอ้อมมาตรวัดบุคลิกภาพหรือพฤติกรรมความหุนหันพลันแล่น (Barratt Impulsiveness Scale หรือ BIS-11) และมาตรวัดพฤติกรรมในการใช้ถุงยางอนามัย วิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเชิงขั้น (Hierarchical Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า เจตคติต่อพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย (r =.398, p <.01) การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง (r =.544, p <.01) การรับรู้การควบคุมพฤติกรรม (r=.691, p <.01) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยตามลำดับ ส่วนบุคลิกภาพหรือพฤติกรรมความหุนหันพลันแล่นไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ตัวแปรทุกตัวร่วมกันทำนายพฤติกรรมกับพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยได้ 60.1% โดยการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมมีน้ำหนักในการทำนายพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยได้มากที่สุด (β =.517, p<.01) | en_US |
dc.description.abstractalternative | The present research aims to study the relationship between condom use, attitude toward behavior, subjective norms, perceived behavioral control and Impulsiveness, based on the Planned Behavioral Theory. One hundred and twenty homosexual participants, between the ages of 17 and 28 years, were recruited. The research instruments were: Attitude toward Behavior Scale, Subjective Norm Scale, Perceived Behavioral Control Scale, Barratt Impulsiveness Scale (BIS-11), and Behavioral Intention scale. This research used hierarchical regression analysis to analyze the data. As predicted, the results suggested that attitude toward behavior (r =.398, p <.01), subjective norms (r=.544, p <.01), perceived behavioral control were positively correlated with condom use (r=.691, p <.01), consecutively. On the other hand, not as predicted, impulsiveness was uncorrelated with comdom use). It also showed that 60.1% of the variance in condom use was significantly accounted for by these predictors, in which perceived behavioral control was the strongest predictor (β =.517, p <.01). | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | เกย์ | en_US |
dc.subject | ถุงยางอนามัย | en_US |
dc.subject | รักร่วมเพศ | en_US |
dc.subject | โรคเอดส์ | en_US |
dc.subject | จิตวิทยาวัยรุ่น | en_US |
dc.subject | Gays | en_US |
dc.subject | Condoms | en_US |
dc.subject | Homosexuality | en_US |
dc.subject | AIDS (Disease) | en_US |
dc.subject | Adolescent psychology | en_US |
dc.title | ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มชายรักชายผู้ใหญ่ตอนต้น | en_US |
dc.title.alternative | FACTOR PREDICTING INTENTION OF CONDOM USE AMONG YOUNG-ADULT MALE HOMOSEXUALS | en_US |
dc.type | Senior Project | en_US |
dc.email.advisor | Rewadee.W@chula.ac.th |