DSpace Repository

Chinese reading proficiency guidelines : a case study of Chulalongkorn University students

Show simple item record

dc.contributor.advisor Suree Choonharuangdej
dc.contributor.advisor Prapin Manomaivibool
dc.contributor.author Sansanee Ek-atchariya
dc.contributor.other Chulalongkorn University. Faculty of Arts
dc.date.accessioned 2018-05-28T02:57:39Z
dc.date.available 2018-05-28T02:57:39Z
dc.date.issued 2006
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58937
dc.description Thesis (M.A.)--Chulalongkorn University, 2006 en_US
dc.description.abstract จุดประสงค์ของวิทยานิพนธ์ฉบับนี้คือเพื่อเสนอ "แนวทางการกำหนดความสามารถด้านการอ่านภาษาจีน : กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" และเพื่อนำไปใช้เป็นมาตรฐานในการออกแบบการวัดผลทางด้านทักษะการอ่าน รวมทั้งสามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ในการอ้างอิงการเขียนตำราที่เกี่ยวข้องกับทักษะด้านการอ่านภาษาจีนได้อีกด้วย ในการวิเคราะห์หลักสูตรวิชาเอกภาษาจีนของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นผู้วิจัยได้นำบทบาททางภาษา 3 ประการของแนวทางกำหนดความสามารถทางด้านภาษาจีนของสภาการสอนภาษาต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ American Council on the Teaching of Foreign Languages (ACTFL) Chinese Proficiency Guidelines มาเป็นหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์เพื่อแสดงให้เห็นว่า หลังจากที่นิสิตเรียนแต่ละวิชาจบแล้วนั้น นิสิตมีความสามารถด้านการอ่านภาษาจีนเป็นอย่างไร และกำหนดระดับต้น กลาง และสูง ของแต่ละวิชาด้วย สุดท้ายจึงสรุปหลักเกณฑ์ในการแบ่งระดับความสามารถในด้านการอ่านของนิสิตวิชาเอกภาษาจีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นผู้วิจัยทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างแนวทางกำหนดความสามารถทางด้านภาษาจีนของสภาการสอนภาษาต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (ACTFL) กับแนวทางการกำหนดความสามารถด้านการอ่านภาษาจีน : กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้วิจัยเห็นว่าการวิเคราะห์เปรียบเทียบนี้มีหลักสำคัญที่ต้องคำนึงถึง 2 ประการคือ 1. การวิเคราะห์ในแนวนอนเพื่อหาข้อแตกต่างระหว่างระดับชั้นของแนวทางกำหนดความสามารถทั้งสอง 2. การวิเคราะห์ในแนวตั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านการอ่านของผู้เรียน ผลการวิจัยที่ได้รับคือระดับความสามารถทางด้านการอ่านทั้งต้น กลาง และสูงของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยล้วนสูงกว่าระดับความสามารถของแนวทางกำหนดความสามารถทางด้านภาษาาจีนของสภาการสอนภาษาต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (ACTFL) รวมทั้งพัฒนาการทางด้านการอ่านของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เร็วกว่าอีกด้วย เหตุผลของความแตกต่างระหว่างแนวทางกำหนดความสามารถทั้งสองนี้ ผู้วิจัยตระหนักว่ามีสาเหตุมาจาก 1. แนวทางกำหนดความสามารถด้านการอ่านจัดทำขึ้นเพื่อนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิชาเอกภาษาจีนโดยเฉพาะ 2. จุดประสงค์ของหลักสูตรวิชาเอกภาษาจีน คือ การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถในด้านภาษาจีน และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ และ 3. ภาษาไทยเป็นภาษาที่อยู่ในตระกูลภาษาเดียวกันกับภาษาจีน คือ ตระกูลภาษาจีน-ธิเบต ซึ่งมักมีระบบเสียงและหลักไวยากรณ์ที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นนิสิตไทยจึงสามารถเรียนรู้ภาษาจีนได้ค่อนข้างเร็ว en_US
dc.language.iso en en_US
dc.publisher Chulalongkorn University en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2006.2049
dc.rights Chulalongkorn University en_US
dc.subject Chinese language -- Reading en_US
dc.subject Chinese language -- Study and teaching en_US
dc.subject ภาษาจีน -- การอ่าน en_US
dc.subject ภาษาจีน -- การศึกษาและการสอน en_US
dc.title Chinese reading proficiency guidelines : a case study of Chulalongkorn University students en_US
dc.title.alternative แนวทางการกำหนดความสามารถด้านการอ่านภาษาจีน : กรณีศึกษานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name Master of Arts en_US
dc.degree.level Master's Degree en_US
dc.degree.discipline Chinese as a Foreign Language en_US
dc.degree.grantor Chulalongkorn University en_US
dc.email.advisor Suree.C@Chula.ac.th
dc.email.advisor No information provided
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2006.2049


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record