Abstract:
การวิจัยเรื่อง ผลของกิจกรรมพหุศาสตร์ที่บรรจุประสบการณ์สุนทรียะจากนวัตกรรมสีเกล็ดมุก ต่อความตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน : Art Go Green มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากิจกรรมพหุศาสตร์ที่บรรจุประสบการณ์สุนทรียะจากการใช้นวัตกรรมสีเกล็ดมุก ต่อความตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 2) เปรียบเทียบความรู้และ ทัศนคติต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนก่อนและหลังการทดลองกิจกรรม และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในประสบการณ์สุนทรียะที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมสีเกล็ดมุก การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 3 ระดับชั้นคือ นักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 27 คน นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นตัวแทนเด็กในชุมชนเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ จำนวน 37 คน นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 23 คน การจัดกิจกรรมดังกล่าวแบ่งเป็น 4 ช่วงคือ ช่วงที่1 เรื่องสภาวะโลกร้อนกับชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไป ช่วงที่ 2 เรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ช่วงที่ 3 กรณีขยะเปลือกหอยแมลงภู่ และ ช่วงที่ 4 บทสรุปสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและนิทรรศการศิลปะ โดยแผนการจัดกิจกรรมถูกออกแบบให้เหมาะสมกับกลุ่มตัวอย่างแต่ละระดับ ได้แก่ เนื้อหา แบบทดสอบ และ ระยะเวลาการจัดกิจกรรมเครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมพหุศาสตร์ที่บรรจุประสบการณ์สุนทรียะจากการใช้นวัตกรรมสีเกล็ดมุกต่อความตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและสภาวะโลกร้อน 2) แบบวัดทัศนคติเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและสภาวะโลกร้อน 3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อประสบการณ์สุนทรียะที่มีต่อการใช้นวัตกรรมสีเกล็ดมุก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา คำร้อยละ คำเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และเปรียบเทียบความแตกต่างด้วยสถิติทดสอบที ที่ระดับนัยยะสำคัญทางสถิติ .05