Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นำเสนอการพัฒนาโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับใช้ในระบบการจัดการพลังงานภายในอาคารที่มีพื้นฐานการสื่อสารข้อมูลด้วยมาตรฐาน IEEE1888 งานวิจัยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบในด้านการสร้างมโนภาพข้อมูลจากตัวรับรู้สภาพแวดล้อมประเภทต่าง ๆ ซึ่งมีติดตั้งภายในระบบ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้อาศัยทรัพยากรข้อมูลของโครงการ CUBEMS (Chulalonkorn university building energy management system) เพื่อพัฒนาต้นแบบทดสอบ การพัฒนาโปรแกรมได้เลือกใช้คลัง Pandas ของภาษา python วิธีการทำสำเนาข้อมูลไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รับผิดชอบโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดระยะเวลาการร้องขอข้อมูลชุดเดิมจากหน่วยเก็บข้อมูลของ CUBEMS การสื่อสารเพื่อร้องขอข้อมูลทุกอย่างสอดคล้องตามมาตรฐาน IEEE1888 ด้วยโพรโทคอล FETCH และผลลัพธ์จากการคำนวณของโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลถูกเขียนกลับลงไปยังหน่วยเก็บข้อมูลของ CUBEMS ด้วยโพรโทคอล WRITE ตามมาตรฐาน IEEE1888 นอกจากนี้วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้พัฒนาโปรแกรมวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลระหว่างตัวรับรู้การเคลื่อนไหว และตัวรับรู้อุณหภูมิ ร่วมกับข้อมูลการบริโภคพลังงาน ตัวกรองข้อมูลต่าง ๆ จากตัวรับรู้การเคลื่อนไหวได้ถูกนำเสนอไว้ในงานวิจัยนี้เพื่อเพิ่มความถูกต้องของการตรวจจับว่ามีผู้ใช้อยู่ในบริเวณที่ติดตั้งตัวรับรู้หรือไม่ ข้อมูลการอยู่ของผู้ใช้อาคารนี้ได้นำมาใช้เพื่อนิยามตัวชี้วัดความสูญเปล่าของการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ กล่าวคือ จะนับว่ามีการสูญเปล่าที่ไม่จำเป็นของการใช้พลังงานเมื่อมีการเปิดให้ระบบปรับอากาศทำงานในบริเวณที่ไม่มีผู้ใช้งานอยู่เลย หรือเมื่อมีการปรับอุณหภูมิให้ต่ำเกินไป ผลการวิเคราะห์การสูญเปล่าของพลังงานในระบบปรับอากาศได้ถูกนำเสนอที่จอแสดงผลของโครงการ CUBEMS เว็บไซต์การวิเคราะห์ข้อมูล และการแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติผ่านโปรแกรมประยุกต์ไลน์ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเป็นระยะเวลา 1 ปีในบริเวณชั้น 13 อาคารเจริญวิศวกรรมที่มีเครื่องปรับอากาศ 22 เครื่อง และตัวรับรู้สภาพแวดล้อม 43 ตัว แสดงให้เห็นว่ามีการสูญเปล่าของพลังงานมากถึง 24,085 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 134,395 บาทต่อปี และสำหรับบริเวณชั้น 12 ของอาคารเดียวกันพบว่ามีการสูญเปล่าของพลังงานเท่ากับ 6,124 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือคิดเป็น 34,175 บาทต่อปี ผลวิเคราะห์นี้แสดงหลักฐานเชิงตัวเลขซึ่งเสนอว่าอาจมีการปรับลดการบริโภคพลังงานได้อย่างมากและเป็นรูปธรรมเพียงการสร้างให้เกิดการตระหนักรู้วินัยการใช้พลังงานของผู้ใช้อาคารได้ต่อไปในอนาคต