Abstract:
มีงานวิจัยจำนวนมากที่ศึกษาประเภททางไวยากรณ์เพื่อทดสอบสมมติฐานภาษาสัมพัทธ์ซึ่งกล่าวว่าผู้พูดภาษาที่มีประเภททางไวยากรณ์แตกต่างกันย่อมมีความคิดแตกต่างกันด้วย แต่งานด้านนี้ส่วนใหญ่มักทดสอบกับผู้พูดภาษาเดียว โดยมิได้คำนึงถึงผู้พูดสองภาษา เกี่ยวกับสมมติฐานภาษาสัมพัทธ์ ถึงแม้วอร์ฟมิได้กล่าวถึงผู้พูดสองภาษาโดยตรง แต่ก็พูดเป็นนัยไว้ว่าคนที่พูดได้หลายภาษามากเท่าใดก็จะมีความเป็นกลางในความคิดมากเท่านั้น ทำให้ผู้วิจัยสงสัยว่าประเภททางไวยากรณ์ที่อยู่ในตัวผู้พูดสองภาษามีอิทธิพลต่อความคิดของเขาอย่างไร นอกจากนี้ ผลงานในอดีตที่เกี่ยวกับเพศทางไวยากรณ์ในภาษารัสเซียแทบไม่มีเลย งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการมีและไม่มีเพศทางไวยากรณ์ของคำนามกับพฤติกรรมทางปริชานด้านการจำแนกประเภทของผู้พูดภาษารัสเซีย ผู้พูดภาษาอังกฤษ และผู้พูดสองภาษารัสเซีย-อังกฤษ และเปรียบเทียบพฤติกรรมทางปริชานด้านการจำแนกประเภทของผู้พูดทั้ง 3 กลุ่มเพื่อทดสอบสมมติฐานภาษาสัมพัทธ์ ผู้วิจัยมีสมมติฐานว่า ผู้พูดภาษารัสเซียซึ่งเป็นภาษาที่คำนามมีเพศทางไวยากรณ์มีพฤติกรรมทางปริชานด้านการจำแนกประเภทตามเกณฑ์เพศทางไวยากรณ์มากกว่าผู้พูดภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่คำนามไม่มีเพศทางไวยากรณ์ และผู้พูดสองภาษารัสเซีย-อังกฤษมีพฤติกรรมทางปริชานด้านการจำแนกประเภทตามเกณฑ์เพศทางไวยากรณ์น้อยกว่าผู้พูดภาษารัสเซียภาษาเดียวแต่มากกว่าผู้พูดภาษาอังกฤษภาษาเดียว ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์มาจากการทดสอบพฤติกรรมทางปริชานด้านการจำแนกประเภทสรรพสิ่ง โดยให้ผู้พูดภาษารัสเซีย 39 คน ผู้พูดภาษาอังกฤษ 30 คน และผู้พูดสองภาษารัสเซีย-อังกฤษ 54 คน ดูภาพสัตว์หรือสิ่งของชุดละ 3 ภาพและตัดสินว่าภาพใดไม่เข้าพวกกับภาพอื่นเพื่อที่จะทดสอบว่าผู้พูดแต่ละกลุ่มใช้เพศทางไวยากรณ์หรือลักษณะของสรรพสิ่งเป็นเกณฑ์ในการจำแนกประเภท ผลการทดลองพบว่าผู้พูดภาษารัสเซียจำแนกประเภทสรรพสิ่งตามเกณฑ์เพศทางไวยากรณ์มากกว่าผู้พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งสนับสนุนสมมติฐานภาษาสัมพัทธ์ ส่วนผู้พูดสองภาษารัสเซีย-อังกฤษจำแนกประเภทสรรพสิ่งตามเกณฑ์เพศทางไวยากรณ์น้อยกว่าผู้พูดภาษารัสเซียภาษาเดียว แต่ไม่แตกต่างจากผู้พูดภาษาอังกฤษภาษาเดียวแสดงให้เห็นอิทธิพลของภาวะสองภาษา ซึ่งมีปัจจัยสำคัญคือความเชี่ยวชาญในภาษาที่สองในระดับสูง