Abstract:
งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์โฟมจากยางธรรมชาติผสมกับพอลิยูริเทนด้วย กระบวนการดัลลอปเพื่อใช้เป็นวัสดุตกแต่งอาคารที่มีสมบัติในการดูดซับเสียงและเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี โดยงานวิจัยนี้ได้แบ่งการศึกษาออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกจะเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความ หนาแน่นของชิ้นงานโฟมยางธรรมชาติกับความสามารถในการดูดซับเสียงและการนำความร้อน จากผลการ ทดลองพบว่าเมื่อทำการเพิ่มปริมาณน้ำยางธรรชาติจาก 700 กรัม เป็น 800, 900 และ 1000 กรัม ชิ้นงานโฟม ยางธรรมชาติที่ได้จะมีความหนาแน่น 0.0752, 0.0832, 0.0899 และ 0.0943 กรัมต่อลูกบากศ์เซนติเมตร ตามลำดับ โดยโฟมยางธรรมชาติที่มีความหนาแน่นที่สูงสุดจะมีความสามารถในการดูดซับเสียงที่ดีที่สุด ในขณะที่โฟมยางธรรมชาติที่มีความหนาแน่นต่ำที่สุดจะให้ค่าการนำความร้อนที่ต่ำที่สุด สำหรับในส่วนที่สองนั้นจะทำการศึกษาผลของการเติมพอลิยูริเทนที่อัตราส่วนต่างๆ กัน ต่อสมบัติทางกายภาพ สมบัติการดูดซับเสียง สมบัติการนำความร้อน และค่าการเจริญของจุลชีพของชิ้นงานโฟมที่ได้ โดยสัดส่วนของยางธรรมชาติต่อพอลิยู ริเทนที่ทำการศึกษา มีดังนี้ 10 : 0, 10 : 1 และ 10 : 2 ตามลำดับ สำหรับการเตรียมโฟมยางจากน้ำยาง ธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนจำเป็นต้องมีการเติมสารเพิ่มความเสถียรของอนุภาคยาง โดยสารที่ใช้ในการทดลองนี้ คือ เทอริคแอซิด โดยสูตรโฟมที่อัตราส่วน 10 : 1 ปริมาณสารเทอริคแอซิดที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 40 กรัม สำหรับ สูตรโฟมที่อัตราส่วน 10 : 2 ต้องเติมสารเทอริคแอซิดในปริมาณ 50 กรัม จากผลการทดลองพบว่า โฟมยาง ธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนให้สมบัติต่างๆ ที่ดีกว่าโฟมยางธรรมชาติ โดยโฟมยางที่ทำการผสมยางธรรมชาติกับ พอลิยูริเทนในอัตราส่วน 10 : 1 จะให้ค่าการดูดซับเสียงที่ดีที่สุด ในขณะที่ชิ้นงานโฟมที่ทำการผสมยาง ธรรมชาติกับพอลิยูริเทนในอัตราส่วน 10 : 2 จะให้ค่าความแข็งแบบชอร์เอ และความต้านทานต่อการเสียรูป หลังการกดอัดสูงที่สุด อีกทั้งให้ค่าการนำความร้อนและค่าการเจริญของจุลชีพที่ต่ำที่สุด ดังนั้นสูตรโฟมจาก ยางธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนที่อัตราส่วน 10 : 2 จึงเป็นสูตรที่เหมาะสมที่สุด