dc.contributor.advisor |
กนกทิพย์ บุญเกิด |
|
dc.contributor.author |
ธัญจิรา จารุศิรพจน์ |
|
dc.contributor.author |
กฤตนัย นิจจำรูญ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2020-03-09T04:59:17Z |
|
dc.date.available |
2020-03-09T04:59:17Z |
|
dc.date.issued |
2561 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64316 |
|
dc.description |
โครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2561 |
en_US |
dc.description.abstract |
งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์โฟมจากยางธรรมชาติผสมกับพอลิยูริเทนด้วย กระบวนการดัลลอปเพื่อใช้เป็นวัสดุตกแต่งอาคารที่มีสมบัติในการดูดซับเสียงและเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี โดยงานวิจัยนี้ได้แบ่งการศึกษาออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกจะเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความ หนาแน่นของชิ้นงานโฟมยางธรรมชาติกับความสามารถในการดูดซับเสียงและการนำความร้อน จากผลการ ทดลองพบว่าเมื่อทำการเพิ่มปริมาณน้ำยางธรรชาติจาก 700 กรัม เป็น 800, 900 และ 1000 กรัม ชิ้นงานโฟม ยางธรรมชาติที่ได้จะมีความหนาแน่น 0.0752, 0.0832, 0.0899 และ 0.0943 กรัมต่อลูกบากศ์เซนติเมตร ตามลำดับ โดยโฟมยางธรรมชาติที่มีความหนาแน่นที่สูงสุดจะมีความสามารถในการดูดซับเสียงที่ดีที่สุด ในขณะที่โฟมยางธรรมชาติที่มีความหนาแน่นต่ำที่สุดจะให้ค่าการนำความร้อนที่ต่ำที่สุด สำหรับในส่วนที่สองนั้นจะทำการศึกษาผลของการเติมพอลิยูริเทนที่อัตราส่วนต่างๆ กัน ต่อสมบัติทางกายภาพ สมบัติการดูดซับเสียง สมบัติการนำความร้อน และค่าการเจริญของจุลชีพของชิ้นงานโฟมที่ได้ โดยสัดส่วนของยางธรรมชาติต่อพอลิยู ริเทนที่ทำการศึกษา มีดังนี้ 10 : 0, 10 : 1 และ 10 : 2 ตามลำดับ สำหรับการเตรียมโฟมยางจากน้ำยาง ธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนจำเป็นต้องมีการเติมสารเพิ่มความเสถียรของอนุภาคยาง โดยสารที่ใช้ในการทดลองนี้ คือ เทอริคแอซิด โดยสูตรโฟมที่อัตราส่วน 10 : 1 ปริมาณสารเทอริคแอซิดที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 40 กรัม สำหรับ สูตรโฟมที่อัตราส่วน 10 : 2 ต้องเติมสารเทอริคแอซิดในปริมาณ 50 กรัม จากผลการทดลองพบว่า โฟมยาง ธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนให้สมบัติต่างๆ ที่ดีกว่าโฟมยางธรรมชาติ โดยโฟมยางที่ทำการผสมยางธรรมชาติกับ พอลิยูริเทนในอัตราส่วน 10 : 1 จะให้ค่าการดูดซับเสียงที่ดีที่สุด ในขณะที่ชิ้นงานโฟมที่ทำการผสมยาง ธรรมชาติกับพอลิยูริเทนในอัตราส่วน 10 : 2 จะให้ค่าความแข็งแบบชอร์เอ และความต้านทานต่อการเสียรูป หลังการกดอัดสูงที่สุด อีกทั้งให้ค่าการนำความร้อนและค่าการเจริญของจุลชีพที่ต่ำที่สุด ดังนั้นสูตรโฟมจาก ยางธรรมชาติผสมพอลิยูริเทนที่อัตราส่วน 10 : 2 จึงเป็นสูตรที่เหมาะสมที่สุด |
en_US |
dc.description.abstractalternative |
This research was aimed to develop foam from natural rubber blended with polyurethane by a Dunlop process for using as materials for building decoration with good sound absorption and thermal insulation property. The research was divided into two parts. The first part was focused on the relationship between density of natural rubber foam and sound absorption ability and thermal conductivity. The result showed that when using the same process but increasing amount of natural rubber latex from 700, 800, 900 and 1000 grams, the obtained rubber foams had the density of 0.0752, 0.0832, 0.0899 and 0.0943 g/cm³, respectively. The obtained rubber foam with highest density showed the best sound absorption ability, while the one with lowest density gave the lowest thermal conductivity. For the second part, the study was focused on the effect of polyurethane on physical property, sound absorption ability, thermal conductivity and the number of microbes of the blended foam. The blended foams with different natural rubber to polyurethane ratios including 10:0, 10:1 and 10:2 were prepared. In this case of the blended foam, it was necessary to add teric acid into the rubber latex during mixing step to enhance the stability of natural rubber particle in the latex. The results showed the suitable amount of teric acid was 40 g for the blended foam at a 10:1 ratio and 50 g for the blended foam at a 10:2. The result here showed that rubber foam blended with polyurethane showed superior properties to the pure rubber foam. The best sound absorption ability was found from the blended foam at a 10:1 ratio. However, the blended foam at a 10:2 ratio gave the highest hardness (shore A), compression set, and the lowest number of microbes. Therefore, the best formula for preparing the blended foam from natural rubber and polyurethane was at a 10:2 ratio. |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.title |
การพัฒนาผลิตภัณฑ์โฟมจากยางธรรมชาติผสมพอลิยูรีเทนเพื่อใช้เป็นวัสดุตกเเต่งอาคาร |
en_US |
dc.title.alternative |
Development of foam product from natural rubber blended with polyurethane for using as decorative building material |
en_US |
dc.type |
Senior Project |
en_US |
dc.email.advisor |
Kanoktip.B@Chula.ac.th,k.boonkerd@gmail.com |
|