DSpace Repository

ผลของสารสกัดพรอพอลิสจากผึ้งพันธุ์และชันโรงต่อเชื้อราในผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว

Show simple item record

dc.contributor.advisor สุรีรัตน์ เดี่ยววาณิชย์
dc.contributor.author ภัทราพร ตันติวัชราชัย
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
dc.date.accessioned 2020-03-16T07:38:58Z
dc.date.available 2020-03-16T07:38:58Z
dc.date.issued 2561
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64356
dc.description โครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2561 en_US
dc.description.abstract งานวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาผลของสารสกัดหยาบในเอทานอลของพรอพอลิสจากผึ้งพันธุ์และชันโรงที่มีต่อการเจริญของราก่อโรคกับผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว จากการทดลองได้ทำการแยกเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคภายหลังการเก็บเกี่ยว คือ Alternaria sp. จากองุ่น Fusarium oxysporum จากกล้วย และ Collectotrichum gloesporioides จากพริก เมื่อทดสอบผลการยับยั้งการเจริญของราที่ก่อโรคด้วยสารสกัดหยาบของพรอพอลิสจากผึ้งพันธุ์และชันโรงโดยมีเอทานอลเป็นตัวทำละลาย ที่ความเข้มข้น 1000 2500 5000 7500 และ 10000 ppm เปรียบเทียบกับสารเคมีกำจัดเชื้อรา prochloraz ที่ความเข้มข้น 1000 ppm และเอทานอลที่เป็นชุดควบคุม พบว่าประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของสารสกัดทั้งสองชนิดในเชื้อ Alternaria sp. และ Fusarium oxysporum ไม่แตกต่างจากชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่เมื่อทดสอบเชื้อรา Collectotrichum gloesporioides พบว่า พรอพอลิสของผึ้งพันธุ์ที่ความเข้มข้น 5000 และ 7500 ppm และพรอพอลิสของชันโรงที่ความเข้มข้น 2500 5000 และ 7500 ppm สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อราได้ดีกว่าเอทานอล แต่ต่ำกว่าสารกำจัดเชื้อรา prochloraz อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการทดลองที่ได้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดหยาบของพรอพอลิสในเอทานอลจากผึ้งพันธุ์และชันโรงที่นำมาใช้ในการทดสอบนี้ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคในผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวที่นำมาทดสอบในครั้งนี้ en_US
dc.description.abstractalternative The aim of this study was to evaluate the antifungal activity of ethanol crude extract of propolis from honey bee and stingless bee against postharvest fungi which obtained from infected grapes, bananas and chilies. The isolated fungi, Alternaria sp. from grapes, Fusarium oxysporum from bananas and Collectotrichum gloeosporioides from chilies were selected to test the growth inhibition activity of ethanol crude extracts of propolis. Various concentrations of both propolis extracts at 1000, 2500, 5000, 7500, and 10000 ppm had been compared with synthetic fungicide (prochloraz) at 1000 ppm and control (ethanol). The results showed that growth inhibition activity of ethanol crude extracts of propolis from both bees groups to Alternaria sp. and Fusarium oxysporum were not significantly different from that of control groups (p>0.05). In contrast, it was found that propolis crude extracts from honey bee at 5000 and 7500 ppm and propolis crude extracts from stingless bee at 2500, 5000 and 7500 ppm can inhibit growth of Collectotrichum gloeosporioides (p<0.05). This inhibition was more efficient than ethanol but less than prochloraz. These results indicated that activity of ethanol crude extracts of propolis from honey bee and stingless bee in this study are not sufficient to inhibit growth of selected postharvest fungi. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.title ผลของสารสกัดพรอพอลิสจากผึ้งพันธุ์และชันโรงต่อเชื้อราในผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว en_US
dc.title.alternative Effects of propolis extract from honey bees and stingless bees on postharvest fungi en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor Sureerat.D@Chula.ac.th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record