Abstract:
การวิจัยครั้งนี้จุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาหน้าที่ของวัฒนธรรมอาหารอิสลามที่มีต่อวิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ เป็นการใช้แบบสอบถาม รวมทั้งการสัมภาษณ์ระดับลึกและการสังเกตการณ์อย่างมีส่วนร่วมในชุมชน สำหรับกลุ่มประชากรที่อยู่ในชุมชนมัสยิดฮารูณ เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งประชากรกลุ่มนี้จะมีทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำทั่วไปในชุมชน ผู้ประกบกิจการร้านอาหารมุสลิม และประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นมุสลิมจำนวนทั้งสิ้น 70 คน สำหรับการวิเคราะห์และการแปลความข้อมูลนั้นใช้การตีความ โดยจะวิเคราะห์จากข้อมูลที่เก็บมาจากสนามวิจัยโดยตรงเป็นหลัก ผลการวิจัยพบว่า ศาสนาอิสลามีข้อกำหนดเกี่ยวกับการบริโภคอาหารที่ชัดเจน ละเอียด และเข้มงวด แต่ก็มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะทำให้มุสลิมสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข มุสลิมส่วนใหญ่มีความเคร่งครัดต่อข้อกำหนดในเรื่องการบริโภค และยิ่งมีความรู้ในเรื่องทางศาสนามากเท่าไร ก็จะยิ่งมีความเคร่งครัดในเรื่องการบริโภคอาหารมากเท่านั้น จุดมุ่งหมายหลักในการบริโภคอาหารของมุสลิมก็คือเพื่อต้องการให้เกิดผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และจุดมุ่งหมายแฝงก็คือเพื่อให้เกิดผลดีในด้านความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และจุดมุ่งหมายแฝงก็คือเพื่อให้เกิดผลดีในด้านความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นของสังคมนอกจากนี้ ยังพบว่า รายละเอียดของพฤติกรรมการบริโภคอาหารของมุสลิมมีผลต่อสังคมโดยรวมอย่างลึกซึ้ง ได้แก่ ความมีจิตสำนึกเคร่งครัดในศาสนา การรวมกลุ่มและดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างใกล้ชิดผูกพันและเหนียวแน่นการเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายและระเบียบทางสังคมต่าง ๆ เพื่อสนองความต้องการของมุสลิมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดความพึงพอใจในการได้รับการเอาใจใส่จากรัฐบาล อันจะนำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่นของสังคม ผลการวิจัยสรุปได้ว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่มีข้อกำหนดความเชื่อและการปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ที่ครอบคลุมวิถีการดำเนินชีวิตของมุสลิมในทุก ๆด้าน รวมทั้งการบริโภคอาหารที่มีข้อกำหนดที่ชัดเจน ละเอียดและเข้มงวด ซึ่งมีผลต่อความเชื่อ จิตสำนึก ความเคร่งครัด ความรู้สึกรับผิดชอบในระเบียบแบบแผนของสังคมและความเป็นปึกแผ่นของสังคมมุสลิมและสังคมโดยรวม