DSpace Repository

ผู้นำศาสนาอิสลามกับขบวนการทางสังคม

Show simple item record

dc.contributor.advisor อมรา พงศาพิชญ์
dc.contributor.author สุไรนี สายนุ้ย
dc.date.accessioned 2020-05-31T14:37:49Z
dc.date.available 2020-05-31T14:37:49Z
dc.date.issued 2547
dc.identifier.isbn 9741765371
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/66126
dc.description วิทยานิพนธ์ (มน.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2547 en_US
dc.description.abstract การศึกษาชีวประวัติผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 ท่านคือ หะยีสุหลง บินอับดุลกาเดร์ และดร.อิสมาอีสลุตฟี จะปะกียา โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2. เพื่อศึกษาชีวประวัติของผู้นำศาสนา และเพื่อทราบถึงบทบาทหน้าที่ วิถีชีวิต แนวคิดและอุดมการณ์ของผู้นำศาสนา 3. เพื่อศึกษาขบวนการทางสังคมของผู้นำศาสนา และแนวทางในการปฏิบัติการเพื่อการเคลื่อนไหวทางสังคม ตลอดไปจนถึงการวิเคราะห์รูปแบบของของขบวนการทางสังคมและแนวคิดสันติภาพ ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยที่ส่งเสริมภาวะการเป็นผู้นำศาสนาของบุคคลทั้งสองท่าน คือ การอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว การเรียนรู้ศาสนา และแนวคิดในการฟื้นฟูอิสลาม ในแง่ของขบวนการทางสังคมผู้นำทั้งสองท่านใช้หลักการ “ญิฮาด” ในศาสนาอิสลาม เป็นพลังขับเคลื่อนโดยผ่านรูปแบบ “การดะวะห์” “ตับลีก” และ“การศึกษา” แบบบูรณาการระหว่างศาสนาและการศึกษาด้านสามัญ โดยทั้งหมด รวมเรียกว่า “ขบวนการเคลื่อนไหวอิสลาม” นอกจากหลักการนี้แล้ว หะยีสุหลง บินอับดุลกาเดร์ ได้สร้างขบวนการอีกลักษณะหนึ่งควบคู่ไปด้วยคือ “ขบวนการทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องสิทธิของกลุ่มคนต่าง ๆ” (The Rights Movement) เพื่อเรียกร้องสิทธิทางการเมืองอันถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งขบวนการทางสังคมของหะยีสุหลงจึงมีลักษณะเป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่ในขณะที่การเคลื่อนไหวของดร.อิสมาอีลลุตฟีนั้นไม่ถือเป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่ รูปแบบและลักษณะของการเคลื่อนไหวทางสังคมนั้นมิได้มีข้อบ่งชี้ว่าผู้นำศาสนาทั้ง 2 ท่านใช้ความรุนแรง ในทางตรงกันข้ามทั้งสองท่านสนับสนุนการใช้สันติภาพในการแก้ไขความขัดแย้งและใช้แนวคิดสันติภาพในการเคลื่อนไหวทางสังคมโดยตลอด
dc.description.abstractalternative This thesis focuses on biographic studies of two Islamic leaders in southern Thailand, i.e. Haji Sulong bin Abdulqader and Dr. Ismaellutfi Japakeeya. The objectives are: 1. To study the history of the problem in southern Thailand. 2. To study the biographies of two religious leaders to understand their way of life, role and ideology. 3. To study the role of the two religious leaders in the social movements, the operation, the pattern of the social movements, the adoption of the concept. The research found that factors which encouraged the leadership of the two Islamic religious leaders are : socialization in the family, religious learning, and the practice of Islamization. In term of social movements, both religious leaders use religious concept of jihad, dakwah and tabliq. In addition, they also integrate religious and secular studies in the Islamization process. Haji Sulong bin Abdulqader, also adopted a parallel movement, the Rights Movement, calling for political rights which is the primary human rights. Thus, Haji Sulong's social movement is the “New Social Movement”. On the other hand, Dr. Ismaellutfi’s social movement is not the “New Social Movement”. The pattern and the characteristic of both social movements adopt nonviolence concept.
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา en_US
dc.subject หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์, 2438-2497 en_US
dc.subject ขบวนการสังคม--ไทย (ภาคใต้) en_US
dc.subject ผู้นำศาสนาอิสลาม--ไทย (ภาคใต้) en_US
dc.subject Muslim religious leaders--Thailand, Southern en_US
dc.subject Social movements--Thailand, Southern en_US
dc.title ผู้นำศาสนาอิสลามกับขบวนการทางสังคม en_US
dc.title.alternative Islamic leaders and social movements en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name มานุษยวิทยามหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline มานุษยวิทยา en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor Amara.P@chula.ac.th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record