Abstract:
งานวิจัยนี้ศึกษารูปแบบด้านหน่วยคำและวากยสัมพันธ์ภาษาอังกฤษของภาษาในระหว่างที่ใช้โดยนัก ศึกษาไทยระดับปริญญาตรีที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นวิชาเอก 2 กลุ่มที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษต่างระดับ กัน ข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัยมาจากการเขียนของนักศึกษากลุ่มที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงจำนวน 150 เรื่อง และงานเขียนของนักศึกษากลุ่มที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษต่ำอีก 150 เรื่อง จากการศึกษาพบว่ารูปแบบด้านหน่วยคำและวากยสัมพันธ์ของภาษาในระหว่างของกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกัน รูปแบบด้านหน่วยคำที่เบี่ยงเบนจากภาษาเป้าหมายพบมากในกลุ่มต่ำ ส่วนรูปแบบด้านวากยสัมพันธ์ที่เบี่ยงเบนจากภาษาเป้าหมายพบทั้งในกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ จากการศึกษาลักษณะของภาษาในระหว่างเชิงพัฒนาการ พบว่าลักษณะของภาษาในระหว่างของกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมี 2 ประเภท คือ ลักษณะคงที่ และลักษณะไม่คงที่หรือลักษณะแบบเวียนกลับ ลักษณะ คงที่ส่วนใหญ่ปรากฎในการใช้นามวลีในกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่ม ส่วนลักษณะไม่คงที่มี 2 ประเภทย่อย คือ ลักษณะไม่คงที่ที่ปัญหาของผู้เรียนเกิดขึ้นในระยะแรกและท้ายที่สุดผู้เรียนสามารถเรียนรู้ลักษณะที่เป็นปัญหานั้นได้ ลักษณะไม่คงที่ประเภทนี้พบในกลุ่มสูง ส่วนใหญ่พบในการใช้กริยาวลี ลักษณะไม่คงที่ ประเภทที่สอง เป็นลักษณะที่ปัญหาของผู้เรียนเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่มีการเรียนการสอนและผู้เรียนไม่สามารถเรียนรู้ลักษณะที่เป็นปัญหานั้นได้ ลักษณะไม่คงที่ประเภทนี้พบในกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นการใช้คำนำหน้านาม ซึ่งพบในกลุ่มสูงมากกว่ากลุ่มต่ำ การศึกษาภาษาในระหว่างในเชิงต่อเนื่องระยะยาวมีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาลักษณะเฉพาะตนของพัฒนา การทางภาษาผู้เรียนแต่ละบุคคล การศึกษาแสดงให้เห็นความหลากหลายของพัฒนาการในการเรียนภาษาที่สอง ของผู้เรียน กระบวนการศึกษาในระหว่างเชิงต่อเนื่องระยะยาวของผู้เรียนภาษาที่สองในการวิจัยนี้นำไปสู่ข้อเสนอแนะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษได้