Abstract:
การศึกษาถึงศักยภาพในการรองรับการพัฒนาศูนย์ราชการของภาคตะวันออกของประเทศไทย นี้ได้มุ่งเน้นศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อศึกษาถึงองค์ประกอบ ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก ทำเลที่ตั้งของศูนย์ราชการ โดยศึกษาพื้นที่ในภาคตะวันออก 8 จังหวัด 67 อำเภอ ใช้เทคนิควิเคราะห์ ด้วยการซ้อนทับข้อมูล (Overlay Technique) โดยการนำปัจจัยต่างๆ มาซ้อนทับกันเพื่อหาศักยภาพ และจัดลำดับศักย์ความสำคัญของพื้นที่ เพื่อเสนอแนะพื้นที่ที่เหมาะสม ศูนย์ราชการของภาคตะวันออกเน้นบทบาทหน้าที่ เป็นเมืองหลักและเป็นศูนย์กลางแห่งการ บริหารปกครองของภาคตะวันออก โดยเน้นบทบาทหน้าที่เฉพาะมากขึ้น เพื่อรองรับกิจกรรมหลัก ซึ่งมี ความเฉพาะและเชี่ยวชาญพิเศษในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์ศักยภาพมีทั้งหมด 16 ปัจจัย ประกอบด้วยปัจจัยที่กันพื้นที่ออก 5 ปัจจัย ปัจจัยทางกายภาพ 3 ปัจจัย ปัจจัยทางเศรษฐกิจ 4 ปัจจัย และปัจจัยทางสังคม 4 ปัจจัย โดยแบ่งการศึกษาเป็น 4 กรณี ซึ่งให้ค่าน้ำหนักเน้นเฉพาะต่างกัน ออกไป ซึ่งผลการศึกษาพบว่าในทั้ง 4 กรณีได้ผลการศึกษาคล้ายคลึงกัน นั่นคือพื้นที่ที่มีศักยภาพมาก ที่สุดอยู่บริเวณพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดชลบุรี ใกล้แนวชายฝั่ง ดังนั้นจึงได้เสนอพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการรองรับศูนย์ราชการของ ภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อมีศูนย์ราชการเกิดขึ้นในพื้นที่แล้วพื้นที่จะสามารถรองรับและส่งเสริมให้มีการ พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง เป็นศูนย์กลางที่สำคัญและสามารถกระจายความเจริญสู่พื้นที่ข้างเคียงได้ โดย ศูนย์ราชการทำหน้าที่เป็นกิจกรรมนำให้เกิดการพัฒนา และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับกิจกรรม อื่นๆ ในพื้นที่รอบๆ ซึ่งก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าต่อพื้นที่ในภาคต่อไป