Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงหากลยุทธ์การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหมาะสมในเชิงเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ ในอาคารสถานศึกษา การวิจัยครั้งนี้แยกการศึกษา ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนแรก สำรวจ ประเมินและวิเคราะห์ระดับสภาวะแวดล้อมด้านอุณหภูมิและการใช้พลังงานในอาคาร ทำการจำลองสภาพอาคารด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ DOE2.1D นำมาใช้เป็นตัวแทนอาคารกรณีศึกษา เพื่อประเมินผลการใช้พลังงานในอาคาร การศึกษาในส่วนหลัง พิจารณาหาวิธีการปรับปรุงองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของอาคารและเสนอแนวทางในการปรันปรุงการใช้พลังงานในอาคารที่เหมาะสม ผลการวิจัย พบว่าพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ในอาคารถูกนำไปใช้ในระบบปรันอากาศ เนื่องจากองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมไม่มีคุณลมปติและประสิทธิภาพเพียงพอที่จะด้านทานความร้อนจากภายนอกอาคารได้ ทำให้ค่าการถ่ายเทความร้อนรวมผ่านกรอบอาคารมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดไว้ องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่มีปัญหา และต้องนำมาพิจารณาปรับปรุง ได้แก่ ผนังทึบ หลังคาคอนกรีต ผนังโปร่งแลง ช่องหน้าต่าง แผงกันแดดภายนอก และการรั้วไหลของอากาศ สำหรับพลังงานที่ใช้ในระบบแสงประดิษฐ์นั้น มีปริมาณพลังงาน ไฟฟ้าแลงสว่างที่ใช้ต่อพื้นที่ผ่านตามเกณฑ์ที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดไว้ในขณะที่ค่าระดับความส่องสว่างผ่านเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน จึงถือว่าการใช้งานในระบบไฟฟ้าแสงประดิษฐ์จัดอยู่ในระดับที่เหมาะลมและมีประสิทธิภาพดี จากการศึกษา สามารถสรุปเป็นแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารสถานศึกษาได้ 3 แนวทาง คือ แนวทางที่1 ปรับปรุงอาคารให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทางด้านการอนุรักษ์พลังงานในอาคารโดยมีงบประมาณในการลงทุนน้อยที่สุด โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ 9.54% ต่อปีงบประมาณลงทุน 448,660 บาท ระยะเวลาคืนทุนภายใน 4.1 ปี แนวทางที่ 2 ปรับปรุงอาคารให้มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ 12.91% ต่อปี งบประมาณลงทุน 728,733 บาท ระยะเวลาคืนทุนภายใน 5 ปี แนวทางที่ 3 ปรับปรุงอาคารเพื่อลดการใช้พลังงานลงมากที่สุด โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ 13.81%ต่อปี งบประมาณลงทุน 1,476,482บาท ระยะเวลาคืนทุนภายใน 6.1 ปี