dc.contributor.advisor |
ปารีณา ศรีวนิชย์ |
|
dc.contributor.author |
ฐิติพร เจริญสุข |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2021-09-21T06:01:54Z |
|
dc.date.available |
2021-09-21T06:01:54Z |
|
dc.date.issued |
2563 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/75973 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563 |
|
dc.description.abstract |
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึงการกำหนดโทษทางอาญาในกฎหมายควบคุมมลพิษของประเทศไทย โดยโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดทั้งมลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำและมลพิษที่เกี่ยวกับของเสียอันตราย อันก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ในวงกว้าง ซึ่งถือได้ว่าการที่โรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดมลพิษดังกล่าวเป็นการก่ออาชญากรรมสิ่งแวดล้อมขึ้นแล้ว จึงสมควรแก่การนำโทษทางอาญามาบังคับใช้ในการป้องกันและปราบปรามกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมได้ก่อให้เกิดมลพิษขึ้น จากการศึกษาเป็นที่ประจักษ์ว่า ลักษณะการกระทำความผิดทางอาญาที่ปรากฏในกฎหมายควบคุมมลพิษของทั้งประเทศไทย ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย 3 ประการ โดยการกำหนดโทษทางอาญาสำหรับความผิดเนื่องจากการก่อให้เกิดมลพิษและความผิดฐานละเว้นไม่ปฏิบัติตามมาตรการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการก่อมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันการกำหนดโทษทางอาญาสำหรับความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกำหนดนั้นไม่เหมาะสมต่อความรุนแรงของการกระทำความผิดและไม่เป็นไปตามแนวคิดอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด ด้วยเหตุตามที่กล่าวข้างต้น ผู้เขียนจึงขอเสนอแนะให้ประเทศไทยสมควรกำหนดโทษทางปกครองหรือกำหนดค่าปรับเป็นพินัยสำหรับความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกำหนดแทนโทษทางอาญาที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายควบคุมมลพิษในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระทำและตามแนวทางของกฎหมายควบคุมมลพิษของต่างประเทศ |
|
dc.description.abstractalternative |
This thesis purposely studies about criminal punishment of environmental pollution crime in Thailand. Industrial pollution such as air pollution, water pollution and hazardous waste pollution causes huge effect on environment and people’s health. It can be concluded that industries commit an environmental crime, therefore the effective and appropriate measure to prevent such action is criminal punishment. From all studied environmental pollution laws, they classified environmental criminal offences as 3 types. Criminalizing to the offence that directly harms to environment and the offence that not follows the environmental standards is suitable, and it can protect environment and people’s health from industrial pollution efficiently. Nevertheless, the offence that not follows general regulations or directives of government agents should not be criminalized because it is not harmful to environment and people. Consequently, Thailand should apply other measures such as administrative sanction or administrative fine to the last offence above instead of criminal punishment for more effectiveness, appropriation of action’s severity and according to concept of all studied foreign environmental pollution laws. |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2020.805 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.subject |
กระบวนการกำหนดโทษคดีอาญา -- ไทย |
|
dc.subject |
มลพิษ -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- ไทย |
|
dc.subject |
Sentences (Criminal procedure) -- Thailand |
|
dc.subject |
Pollution -- Law and legislation -- Thailand |
|
dc.subject.classification |
Social Sciences |
|
dc.title |
การกำหนดโทษทางอาญาในกฎหมายควบคุมมลพิษของไทย |
|
dc.title.alternative |
Criminal punishment of environmental pollution crime in Thailand |
|
dc.type |
Thesis |
|
dc.degree.name |
นิติศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
นิติศาสตร์ |
|
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.THE.2020.805 |
|