DSpace Repository

การศึกษาแบบมีกลุ่มควบคุมเพื่อศึกษาความแปรผันทางพันธุกรรมของยีนตัวรับวิตามินดีในกลุ่มผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบบี ระยะพาหะชนิดเชื้อน้อย และระยะที่มีตับอักเสบเรื้อรัง

Show simple item record

dc.contributor.advisor ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์
dc.contributor.advisor ยง ภู่วรวรรณ
dc.contributor.author พฤกษา อนันต์ชื่นสุข
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์
dc.date.accessioned 2021-09-21T06:30:48Z
dc.date.available 2021-09-21T06:30:48Z
dc.date.issued 2563
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76353
dc.description วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563
dc.description.abstract วัตถุประสงค์: การศึกษานี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างความแปรผันหลากหลายทางพันธุกรรมของยีนตัวรับวิตามินดีกับระยะของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังโดยแบ่งเป็นระยะพาหะชนิดเชื้อน้อย และระยะตับอักเสบเรื้อรัง วิธีการศึกษา: การศึกษารวบรวมผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง โดยแบ่งเป็นกลุ่มเปรียบเทียบ 2 กลุ่มคือ กลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยที่มี HBV DNA ในเลือด< 2,000 IU/ml และกลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรังที่มี HBV DNA ในเลือด ≥ 2,000 IU/ml และระดับ ALT ในเลือด > 40 IU/ml หรือพบหลักฐานการอักเสบหรือพังผืดในตับ ผู้ทำการวิจัยทำการศึกษา SNP ของยีนตัวรับวิตามินดีจำนวน 6 ตำแหน่ง คือ CdX-2, GATA, FokI, Bsml, ApaI และ TaqI ตรวจโดยใช้ TaqMan real-time polymerase chain reaction (PCR) assay เพื่อศึกษาความแตกต่างของอัลลีล จีโนไทป์ และ haplotype ของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยและระยะตับอักเสบเรื้อรัง รวมถึง linkage disequilibrium (LD) mapping ได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย haplotype inference application  ผลการศึกษา: การศึกษารวบรวมผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง 324 คนช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม พ.ศ.2563 แบ่งเป็นกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อ 163 คน และกลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรัง 161 คน สัดส่วนของผู้ป่วยเพศชายในผู้ป่วยกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยน้อยกว่ากลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรังอย่างมีนัยยะสำคัญที่ร้อยละ 46.0 ต่อร้อยละ 68.3 (p < 0.001) ค่าเฉลี่ยระดับวิตามินดีในแต่ละกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ สัดส่วนความถี่อัลลีล CdX-2 ในกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยและกลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรังของอัลลีล G (G allele) คิดเป็นร้อยละ 53.7 และ 62.7 ตามลำดับ สัดส่วนของอัลลีล A (A allele) คิดเป็นร้อยละ 46.3 และ 37.3 ตามลำดับโดยแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ (p 0.019) สัดส่วนความถี่จีโนไทป์ CdX-2 พบ G/G จีโนไทป์ในกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยน้อยกว่ากลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรัง โดยพบร้อยละ 27.0 และ 41.0 ตามลำดับ (p 0.028) AA haplotype ของ CdX-2/GATA และ AAC haplotype ของ CdX-2/GATA/FokI สัมพันธ์กับกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยอย่างมีนัยยะสำคัญโดยมีอัตราส่วนออด 1.43 (1.04-1.96), p 0.025 และ 1.98 (1.34-2.91), p < 0.0019 ตามลำดับ จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบหลายตัวแปรพบว่า G/A จีโนไทป์ของ Cdx-2 เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์ระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยอย่างมีนัยยะสำคัญโดยมีอัตราส่วนออดที่ปรับแล้ว 1.83 (95%CI 1.10 – 3.04) จาก Linkage disequilibrium (LD) triangular mapping พบว่า BsmI, ApaI และ TaqI มีค่าคะแนน LD (LD’score) สูง (D’ > 0.8) ทั้งในทั้งสองระยะ ในขณะที่ CdX-2/GATA และ GATA/FokI พบคะแนน LD สูงเฉพาะในกลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรัง สรุปผล: G/A จีโนไทป์ของ CdX-2 สัมพันธ์กับระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังชาวไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ นอกจากนี้การศึกษาพบความแตกต่างของ LD ของ CdX-2/GATA และ GATA/FokI ในกลุ่มระยะพาหะชนิดเชื้อน้อยและกลุ่มระยะตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นไปได้ว่าความแตกต่างของความหลากหลายของยีนตัวรับวิตามินดีนี้นำไปสู่ความแตกต่างของการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน
dc.description.abstractalternative Objectives: To demonstrate the association between vitamin D receptor (VDR) polymorphisms and two clinical phases of chronic hepatitis B (CHB) infection; HBV inactive carrier (IC) and chronic hepatitis(CH). Method: Patients with chronic HBV infection were enrolled. The IC phase was defined by HBV viral load (VL) < 2,000 IU/ml. The CH phase was defined as persistent HBV VL > 2,000 IU/ml with evidence of hepatic inflammation or fibrosis. Six common VDR genes’ single nucleotide polymorphisms (SNP), including CdX-2, GATA, FokI, Bsml, ApaI, and TaqI, were studied using TaqMan real-time PCR assay. The different outcomes in allele, genotype, and haplotype frequencies in between groups and linkage disequilibrium (LD) mapping were analyzed using a haplotype inference application. Results: Among 324 enrolled patients, there were 163 patients in IC and 161 patients in CH phases. The proportion of male patients is lower in the IC group (46.0% vs. 68.3%, p < 0.001). The mean vitamin D levels were not statistically different between groups. The proportion of alleles frequency of CdX-2 in IC and CH was 53.7% and 62.7% for G allele, and 46.3% and 37.3% for A allele, which was statistically significant (p 0.019). The proportion of GG genotype of CdX-2 was less frequently found in patients with IC compared to patients with CH (27% vs 41%, p 0.028). AA haplotype (CdX-2/GATA) and AAC haplotype (CdX-2/GATA/FokI) were significantly associated with IC with odd ratio (OR) 1.43 (1.04 – 1.96), p 0.025 and OR 1.98 (1.34 - 2.91), p < 0.001, respectively. By multivariate analysis, CdX-2 G/A genotypes was independently associated with IC, with adjusted OR 1.83 (1.10 – 3.04), p 0.019. The SNPs’ LD mapping revealed high LD scores in Bsml/ApaI/TaqI (BAT) haplotype in both groups while, CdX-2/GATA and GATA/FokI demonstrated high LD’ score only in CH group. Conclusion: The results suggest that CdX-2 G/A genotypes was independently associated with IC status in Thai patients with chronic HBV infection. The difference in LD of the CdX-2/GATA and GATA/FokI haplotypes in between groups might result in the variation of immune control.
dc.language.iso th
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.relation.uri http://www.doi.org/10.58837/CHULA.THE.2020.1320
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.subject.classification Medicine
dc.title การศึกษาแบบมีกลุ่มควบคุมเพื่อศึกษาความแปรผันทางพันธุกรรมของยีนตัวรับวิตามินดีในกลุ่มผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบบี ระยะพาหะชนิดเชื้อน้อย และระยะที่มีตับอักเสบเรื้อรัง
dc.title.alternative Vitamin d receptor polymorphism in HBV carrier with low viral load and chronic hepatitis phases; a case-control study
dc.type Thesis
dc.degree.name วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.level ปริญญาโท
dc.degree.discipline อายุรศาสตร์
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
dc.identifier.DOI 10.58837/CHULA.THE.2020.1320


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record