Abstract:
ที่มาของปัญหา: ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม มีการผลิตข้าวเพื่อบริโภคภายในและส่งออก ปัจจุบันมีการเร่งเพิ่มผลผลิต จึงมีการใช้สารเคมีและเกิดผลต่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อบรรเทาภาวะนี้ จึงมีการใช้เกษตรอินทรีย์มาเป็นทางเลือกมากขึ้น วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความชุกของปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิตทางสุขภาพระหว่างชาวนาที่ทำเกษตรอินทรีย์และชาวนาที่ทำเกษตรเคมีในจังหวัดสุรินทร์ วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบ Cross-sectional analytic study ประกอบด้วยกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรอินทร์จำนวน 364 ราย และกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรเคมี 345 ราย ที่ทำการปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์อย่างน้อย 1 ปี เก็บข้อมูลปัญหาสุขภาพช่วง 3 เดือน และ 1 ปีที่ผ่านมาและคุณภาพชีวิตทางสุขภาพด้วยแบบสอบถาม ทำการวิเคราะห์ทางสถิติด้วย Chi-square และ Binary logistic regression ผลการศึกษา: เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรอินทรีย์ พบว่า ความชุกของอาการท้องเสีย (adjusted OR=3.10, p-value 0.04) และปวดกล้ามเนื้อ (adjusted OR=2.19, p-value <0.01) ในกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรเคมีสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และคุณภาพชีวิตทางสุขภาพในกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรเคมีสูงกว่ากลุ่มชาวนาเกษตรอินทรีย์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุป: เพื่อบรรเทาผลกระทบทางสุขภาพจากการใช้สารเคมีในการปลูกข้าว ควรสนับสนุนการใช้เกษตรอินทรีย์อย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างผลดีต่อสุขภาพและระดับคุณภาพชีวิตทางสุขภาพ