Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเสนอแนวทางการจัดสวัสดิการยืดหยุ่น ที่เหมาะสมกับความต้องการของบุคลากรการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ พนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จํานวน 370 คน ผลการศึกษาพบว่า ระบบสวัสดิการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็น แบบให้เหมือนกันทุกคน (One size fit all) สวัสดิการที่จัดสรรให้ส่วนใหญ่ใช้ได้ในสภาวะวิกฤติ และเน้นรองรับบุคลากรที่มีบุตร โดยสวัสดิการที่บุคลากรเลือกใช้มากที่สุด คือ การเบิกค่ารักษาพยาบาล มีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมาก และสวัสดิการที่บุคลากรเลือกใช้น้อยที่สุด คือ ห้องออกกําลังกาย มีความพึงพอใจการ ให้บริการห้องออกกําลังกายอยู่ในระดับพึงพอใจน้อย ส่วนสวัสดิการเพิ่มเติมที่บุคลากรต้องการมากที่สุด ได้แก่ สวัสดิการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมด้านกองทุนสํารองเลี้ยงชีพฯ รองลงมาเป็นการเบิกค่าตัดแว่นสายตา ตามลําดับ นอกจากนี้ยัง พบว่า ลักษณะส่วนบุคคลที่เป็น ปัจจัยส่งผลให้บุคลากรมีความต้องการสวัสดิการเพิ่มเติมที่แตกต่างกัน ได้แก่ เพศ สถานะการมีบุตร และช่วงอายุ (Generation) และยังพบว่าบุคลากรส่วนใหญ่ไม่มีบุตร สอดคล้องกับแนวโน้มโครงสร้างประชากรที่มีอัตราการเกิด ลดลง ผู้วิจัยจึงเสนอแนวทางการพัฒนาระบบสวัสดิการที่สามารถรองรับการดําเนินชีวิตของบุคลากรได้ทุกกลุ่ม โดยสามารถวิเคราะห์รูปแบบการจัดสวัสดิการยืดหยุ่นที่เหมาะสมได้ 2 รูปแบบ ประกอบด้วย สวัสดิการยืดหยุ่น แบบคะแนนยืดหยุ่น (Flex – point) สําหรับใช้ในระยะแรก และสวัสดิการยืดหยุ่นแบบเลือกเป็นชุด (Alternative Dinner Plan) สําหรับระยะกลางและระยะยาว