Abstract:
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้น
ในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมานั้น ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ทั้งมีผลต่อสุขภาพ สังคม อีกทั้งยังส่งผล
กระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อ
แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ได้ผลดีคือ การขอความร่วมมือ
ให้ข้าราชการ พนักงานของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)
เพื่ อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
และช่วยชะลอการแพร่ระบาดไม่ให้จำนวนผู้ป่วยสูงจนเกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข
ในช่วงที่การฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึงเพียงพอที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้
กรมสรรพากร ได้ออกมาตรการทางภาษีภายใต้หลักปฏิบัติ 4 ประการ ได้แก่ “เลื่อน เร่ง ลด
และเพิ่มแรงจูงใจ” อย่างไรก็ตามมาตรการทางภาษีของประเทศไทย เป็นเพียงการบรรเทาภาระภาษี
ลดภาระการจ่ายเงินค่าภาษี ของผู้ประกอบการ อันสืบเนื่องมาจากการได้รับผลกระทบจากการแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมาตรการทางภาษีดังกล่าว ยังไม่มีมาตรการใด ที่จัดได้ว่า
เป็นการสนับสนุน ส่งเสริมผู้ประกอบการจัดให้พนักงานในองค์กรของตนทำงานในรูปแบบ
Work From Home และไม่มีมาตรการบรรเทาภาระภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่ได้จัดให้มี
การ Work From Home ดังกล่าว ดังนั้น รัฐบาลควรนำแนวคิดด้านหลักความเป็นกลาง
และการแทรกแซงทางภาษีและแนวคิดเกี่ยวกับการบรรเทาภาระภาษีมาปรับใช้ เพื่อช่วยเหลือ
ผู้ประกอบการด้านสภาพคล่อง การมีมาตรการทางภาษีที่จูงใจ ชัดเจน สามารถนำมาปฏิบัติได้
และเห็นผลเป็นรูปธรรม ย่อมได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้ประกอบ ถือเป็นการส่งเสริมและ
ปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐ
จากการศึกษามาตรการทางภาษีของประเทศสหราชอาณาจักร พบว่ามาตรการทางภาษีบาง
ประการสามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้ คือ การสนับสนุนเครื่องพิมพ์เอกสารให้พนักงาน
ทำงานจากที่บ้าน และการจ่ายเงินชดเชยสำหรับค่าใช้จ่ายภายในบ้านของพนักงานที่เพิ่มขึ้น
จากการ Work From Home โดยบริษัทสามารถนำมาบันทึกเป็นรายจ่ายทางภาษีได้เต็มจำนวน
และหักจากกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล อีกทั้งไม่ถือเป็นเงินได้หรือประโยชน์ส่วนเพิ่ม
สำหรับพนักงาน จึงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และผู้วิจัยได้นำเสนอแนวทางการขยาย
ระยะเวลาการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้ประกอบการ Work From Home ที่ขึ้นทะเบียน
กับกรมสรรพากร และการขยายระยะเวลาการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนสะสมยกมา
ไม่เกิน 5 รอบบัญชี รวมถึงมาตรการเพิ่มสภาพคล่องโดยการเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการ
แบบ Work From Home เพื่อเป็นการจูงใจและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีกับ
การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ต่อไป