DSpace Repository

การวิเคราะห์ปริมาณกรดซอร์บิกและกรดเบนโซอิกโดยการสกัดระดับจุลภาคด้วยวัฏภาคของแข็งแบบ เฮดสเปซและเทคนิคไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโทกราฟี

Show simple item record

dc.contributor.advisor พุทธรักษา วรานุศุภากุล
dc.contributor.author กรรณิการ์ ธรรมาภิมุข
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
dc.date.accessioned 2022-03-08T02:45:55Z
dc.date.available 2022-03-08T02:45:55Z
dc.date.issued 2559
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78189
dc.description โครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต ภาควิชาเคมี. คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2559 en_US
dc.description.abstract กรดซอร์บิกและกรดเบนโซอิกนิยมใช้เป็นสารกันบูดในอาหาร เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่เป็นสาเหตุ ทำให้อาหารเน่าเสีย โดยหากมีสารกันบูดอยู่ในอาหารมากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้นในงานวิจัยนี้ได้ พัฒนาวิธีการวิเคราะห์ปริมาณกรดซอร์บิกและกรดเบนโซอิก โดยทำการสกัดด้วยเทคนิคการสกัดระดับจุลภาคด้วยวัฏภาค ของแข็ง (SPME) และนำไปวิเคราะห์ด้วยเทคนิคไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโทกราฟี (HPLC) โดยทำการเปรียบเทียบ ระหว่างการสกัดระดับจุลภาคด้วยวัฏภาคของแข็งแบบโดยตรง (DI-SPME) และการสกัดระดับจุลภาคด้วยวัฏภาคของแข็งแบบ เฮดสเปซ (HS-SPME) โดยใช้เส้นใยชนิดพอลิอะคริเลต (df=85 ไมโครเมตร) ทำการสกัด 40 นาที และทำการชะด้วย สารละลายผสมของเมทานอล-น้ำ (อัตราส่วน 40:60) ปริมาตร 1 มิลลิลิตร เป็นเวลา 5 นาที พบว่าการสกัดแบบ DI-SPME ที่ อุณหภูมิห้อง ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าการสกัดแบบ HS-SPME ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส แต่การสกัดแบบ DI-SPME อาจ เกิดการรบกวนจากเมทริกซ์ในตัวอย่างมากกว่า จากนั้นทำการศึกษาปัจจัยต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดด้วย HS-SPME ได้แก่ ความเป็นกรด-เบสของสารละลายและการเติมเกลือ พบว่า การสกัดแบบ HS-SPME มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เมื่อให้สาร ตัวอย่างอยู่ในกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 0.05 โมลาร์ และเติมเกลือโซเดียมซัลเฟต 0.4 กรัมต่อมิลลิลิตร en_US
dc.description.abstractalternative Sorbic and benzoic acids commonly use as a preservative in food in order to inhibit the growth of microorganisms which is the cause of food spoilage. However, exceeding use of preservatives will be harmful to the consumer. Therefore, a method for determination of sorbic and benzoic acids was developed in this research project. The extraction by solid phase microextraction (SPME) prior to the analysis by high performance liquid chromatography (HPLC) was studied. Direct immersion solid phase microextraction (DI-SPME) and headspace solid phase microextraction (HS-SPME) with polyacrylate fiber (df=85 μm) were compared. Extraction time of 40 min, 1 mL of methanol-water (40:60) as elution solvent and elution time of 5 min were applied. As a result, DI-SPME at room temperature gave a better efficiency than HS-SPME at 50 °C. Nevertheless, the sample matrix may interfere the analysis in DI-SPME. Therefore, the condition in HS-SPME was studied to improve the extraction efficiency which are solution pH and addition of salt. As a result, sample solution in 0.05 M of sulfuric acid and additional of 0.4 g/mL of sodium sulfate can enhance the extraction efficiency of HS-SPME. Keywords: en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject Sorbic acid en_US
dc.subject Benzoates en_US
dc.subject High performance liquid chromatography en_US
dc.subject กรดซอร์บิก en_US
dc.subject เบนโซเอต en_US
dc.subject วัตถุกันเสีย en_US
dc.subject ไฮเปอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโตกราฟี en_US
dc.title การวิเคราะห์ปริมาณกรดซอร์บิกและกรดเบนโซอิกโดยการสกัดระดับจุลภาคด้วยวัฏภาคของแข็งแบบ เฮดสเปซและเทคนิคไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ลิควิดโครมาโทกราฟี en_US
dc.title.alternative Determination of Sorbic and Benzoic Acids by Headspace Solid Phase Microextraction and High Performance Liquid Chromatography en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record