Abstract:
ได้พิสูจน์ทราบเอกลักษณ์ของสารระเหยง่ายในกระชายด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี-แมสสเปกโทรเมตรี GC-MS) ร่วมกับเทคนิคเฮดสเปซโซลิดเฟสไมโครเอกซ์แทรกชัน (HS-SPME) โดยใช้แคปิลลารีคอลัมน์ประเภท HP-5MS ขนาด 30 m x 0.25 mm x 0.25 um จากการออกแบบการทดลองโดยการวิเคราะห์ทีละตัวแปร (Single factor optimization) ร่วมกับการออกแบบการทดลองชนิด central composite design (CCD) เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมในการเตรียมตัวอย่างกระชายด้วย HS-SPME พบว่าสภาวะที่เหมาะสมของ HS-SPME คือ อุณหภูมิที่ใช้ในการสกัดเท่ากับ 40 องศาเซลเซียส ระยะเวลาที่ใช้ในการสกัดเท่ากับ 30 นาที สำหรับตัวอย่างกระชายส่วนราก (rootlet) และ 70 องศาเซลเซียส 60 นาที สำหรับตัวอย่างกระชายส่วนเหง้า (rhizome) จากการพิสูจน์ทราบเอกลัษกษณ์ของสารระเหยง่ายในกระชายโดยเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล NISTO8 สามารถพิสูจน์ทราบเอกลักษณ์ของสารระเหยง่ายได้ทั้งหมด 30 ชนิด โดยเมื่อใช้วิธีเคโมเมทริกซ์ชนิดการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (PCA) พบว่าสามารถจำแนกกลุ่มของกระชายที่มาจากแหล่งเพาะปลูกที่แตกต่างกันได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ จังหวัดนครปฐม พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และระนอง ด้วยรูปแบบ PCA ที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงบ่งชี้ได้ว่าสามารถใช้วิธี HS-SPME-GC-MS ร่วมกับวิธีเคโมเมทริกซ์ในการพิสูจน์ทราบกระชายที่มาจากแหล่งเพาะปลูกที่แตกต่างกันได้