Abstract:
จากปัญหาที่พบคือ ค่าการวิเคราะห์วิตามินบี 12 ในผลิตภัณฑ์นมของบริษัทไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ และผลการวิเคราะห์ของตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะใน polyvitamin premixes ที่มีค่าตามข้อกำหนดผลิตภัณฑ์ที่สูง อีกทั้งได้ผลการวิเคราะห์วิตามินบี 12 ไม่คงที่ งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นในการพัฒนาวิธีการวิเคราะห์วิตามินบี 12 โดยใช้เทคนิคโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูงสุด เริ่มจากหาขั้นตอนการสกัดวิตามินบี 12 ในสภาวะที่เหมาะสม ในผลิตภัณฑ์นมผง มีการใช้ alpha-amylase ในปริมาณเพิ่มขึ้นเพื่อให้มี enzyme activity อยู่ในช่วงที่กำหนด ส่วนสำหรับใน premixes ได้เพิ่มการละลายโดยใช้น้ำในปริมาณมากขึ้น และการเจือจางความเข้มข้น นอกจากนี้ทดลองเติมและไม่เติม NaCN ในการสกัดผลิตภัณฑ์นมผง พบว่ามีผลต่อการเปลี่ยนวิตามินบี 12 ในรูปแบบอื่น ๆ ที่พบในธรรมชาติของนม ให้เป็น cyanocobalamin ส่วนใน premixes ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ต่อมาศึกษาเวลาที่เหมาะสมในการจับกันระหว่าง monochonal antibody และ cyanocobalamin เป็นเวลา 5, 10, 15 นาที พบว่าในผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณวิตามินบี 12 น้อย เวลาไม่มีผลอย่างชัดเจน แต่ในผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณวิตามินบี 12 มาก การใช้เวลาในการเขย่าเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มได้ผลการทดลองที่ดีขึ้น รวมไปถึงตรวจสอบปริมาณเมทานอล สารที่ใช้ในการชะวิตามินบี 12 ออกจาก immunoaffinity gel column พบว่าการใช้เมทานอล 3 mL เพียงพอต่อการชะ และสุดท้ายตรวจสอบประสิทธิภาพของ immunoaffinity gel column ได้ %recovery เท่ากับ 98% เท่ากันเมื่อใช้สารมาตรฐานที่ระดับความเข้มข้น ต่ำ กลาง และสูง นอกจากนิ้วิธีการวิเคราะห์วิตามินบี 12 ของบริษัท Mead Johnson Nutrition กับบริษัทตัวแทนจำหน่าย แตกต่างในขั้นตอนของการเตรียมตัวอย่าง และภาวะของเครื่องโครมาโทรกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ค่าการวิเคราะห์ที่ได้ไม่สอดคล้องกัน จากการศึกษาหาสาเหตุที่ได้ผลวิเคราะห์ไม่สอดคล้องกันและได้ทำการพัฒนาขั้นตอนการวิเคราะห์ รวมทั้งการหาภาวะที่เหมาะสม ทำให้สามารถวิเคราะห์วิตามินบี 12 ได้ค่าทีดีขึ้น ผลการวิเคราะห์สอดคล้องกับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ และถูกต้องแม่นยำตามหลักเกณฑ์ของ AOAC