Abstract:
ความสำคัญและที่มาของปัญหางานวิจัย โรคตับอักเสบเรื้อรังจากไขมันเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ ภาวะตับแข็งจำนวน การวินิจฉัยมาตรฐานของโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไขมันคือการเจาะตรวจทางพยาธิของชิ้นเนื้อ ตับ แต่เนื่องจากเป็นการตรวจวินิจฉัยที่มีภาวะแทรกซ้อน จึงทำให้มีการศึกษาเกี่ยวกับการตรวจเลือดหาระดับอะดิ โพคายน์ฮอร์โมนเพื่อช่วยในการวินิจฉัยและตรวจดูความรุนแรงของโรค วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการตรวจเลือดหาระดับอะดิโพคายน์ฮอร์โมน กับระดับความรุนแรงของการอักเสบและการเกิดภาวะพังผืดในตับในผู้ป่วยที่มีภาวะตับอักเสบเรื้อรังจากไขมัน ระเบียบวิธีการวิจัย การศึกษานี้รวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไขมัน จากการตรวจทางพยาธิของชิ้นเนื้อตับในช่วงเดือนตุลาคม2549 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2550 และได้ทำการเก็บ ข้อมูลทางคลินิกของผู้ป่วย ข้อมูลกลุ่มอาการเมตาบอลิก และได้เก็บเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพื้นฐานและ ตรวจหาระดับอะดิโพคายน์ฮอร์โมนในวันที่ผู้ป่วยมานอนโรงพยาบาลเพื่อเจาะชิ้นเนื้อตับ แล้วนำข้อมูลมาศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างระดับอะดิโพคายน์ฮอร์โมนและระดับความรุนแรงของพยาธิสภาพในตับ ผลการวิจัย ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไขมันที่เข้ารับการศึกษาวิจัย 64 ราย อายุเฉลี่ย 50.0±10.4 ปี เป็นชาย 25 ราย หญิง 39 ราย ข้อมูลลักษณะพื้นฐานของผู้ป่วยในแต่ละระดับความรุนแรงของพยาธิสภาพใน ตับไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่พบว่าผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของพยาธิสภาพในตับมากกว่าทั้งการ อักเสบของตับและการเกิดภาวะพังผืดในตับมีอัตราส่วนของอะดิโพเนคตินต่อเลปตินต่ำกว่ากลุ่มที่มีความรุนแรง ของพยาธิสภาพในตับน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุป อัตราส่วนของระดับอะดิโพเนคตินต่อเลปตินในเลือดมีประโยชน์ในการประเมินความรุนแรงของตับอักเสบ และการเกิดพังผืดในตับในผู้ป่วยโรคตับแข็งเรื้อรังจากไขมัน