Abstract:
ปราสาทไบแบก ตั้งอยู่ที่ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นายสันติ อุทุมพร นายกเทศมนตรี ตำบลจันทบเพชร ได้กล่าวว่าจากข้อมูลและหลักฐานที่พบนั้น สันนิษฐานว่าปราสาทไบแบก มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ลักษณะพิเศษของปราสาทไบแบกนี้คือ เป็นปราสาทหินสองสี เนื่องจากในอดีต ผู้สร้างปราสาทได้เลือกหินทรายอันมีผลึกแร่ควอตซ์ที่ส่องแสงประกายคล้ายเพชรปนอยู่ แล้วนำมาขัดตกแต่งทำเป็นก้อนขนาดเดียวกับก้อนอิฐ มาก่อเรียงเป็นตัวปราสาท แต่ทำได้ช้า จึงเปลี่ยนมาใช้เทคนิคการก่ออิฐประสานด้วยน้ำยางเคมีโบราณ ซึ่งตั้งแต่ผนังช่วงบนขึ้นไปจะก่อด้วยอิฐดินเผาไม่สอปูน อิฐแนบสนิทกัน มีร่องรอยการใช้ปูนขาวตำฉาบและตกแต่งผิวด้านนอก และใช้หินทรายเป็นส่วนค้ำยันโครงสร้างรับน้ำหนัก ในปัจจุบันยังไม่ทราบอายุในการสร้างปราสาทไบแบกที่ชัดเจน เนื่องจากไม่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ จากประเด็นปัญหาดังกล่าว นิสิตผู้จัดทำโครงการซึ่งมีความสนใจทางด้านประวัติศาสตร์ของปราสาทไบแบกประกอบกับความต้องการประยุกต์ความรู้ทางด้านธรณีวิทยาเข้ากับประวัติศาสตร์ จึงมีความสนใจที่จะทำการทดลองเพื่อหาอายุอิฐจากประสาทไบแบกด้วยวิธีการเปล่งแสงและนำผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ได้ มาทำการวิเคราะห์เทียบเคียงกับข้อมูลทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ เพื่อทำการสรุปและอภิปรายผลถึงลำดับเหตุการณ์การสร้างและการบูรณะของปราสาทไบแบกได้ จากหลักการเบื้องต้นของการหาอายุด้วยวิธีการเปล่งแสงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการหาอายุอิฐได้ โดยผู้จัดทำโครงงานทำการศึกษาตัวอย่างอิฐจากปราสาทไบแบกทั้งหมด 4 ตัวอยาง โดยทำการเตรียมตัวอย่างเพื่อทดลองหาค่า Equivalent dose (ED) และ Annual dose (AD) ด้วยเครื่อง TL/OSL reader และ Gamma-ray spectrometer ตามลำดับ แล้วนำผลการทดลองที่ได้มาวิเคราะห์ผลพบว่า แต่ละตัวอย่างมีการกระจายตัวของอายุอยู่ที่ 800 ปี ก่อนปัจจุบัน โดยตรงกับในพุทธศตวรรษที่ 18 และตัวอย่าง BB04 ส่วนที่แรเงาในตารางนั้นเป็นส่วนที่เป็นคาบเกี่ยวช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับข้อมูลที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ตามที่ นายสันติ อุทุมพร นายกเทศมนตรีตำบลจันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้กล่าวว่าจากข้อมูลและหลักฐานที่พบนั้นสันนิษฐานว่าปราสาทไบแบก มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17