Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจและรูปแบบห่วงโซ่อุปทานของโครงข่ายกิจกรรมของร้านอาหารหาบเร่ แผงลอยในเมืองในช่วงเกิดภัยพิบัติโรคระบาด วิเคราะห์บทบาททุนทางสังคมในการดำเนินธุรกิจในช่วงภัยพิบัติโรคระบาดในเมือง และเสนอแนะแนวทางในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารหาบเร่แผงลอยในช่วงภัยพิบัติโรคระบาดในเมือง โดยใช้พื้นที่ย่านเยาวราชเป็นพื้นที่ศึกษา ข้อมูลหลักของงานวิจัยเป็นข้อมูลปฐมภูมิจากแบบสอบถามจากผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่บริเวณถนนเยาวราชช่วงเย็นจำนวน 58 ร้าน ระเบียบวิธีวิจัยหลักของงานวิจัยนี้คือการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา การประเมินระดับทุนทางสังคมและการวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคมของผู้ประกอบการร้านอาหารหาบเร่แผงลอยในเยาวราช การศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารหาบเร่ แผงลอยในพื้นที่เยาวราชช่วงการระบาดของโรค COVID-19 ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขลักษณะของร้านค้าตามมาตรการของภาครัฐที่กำหนดไว้ และการปรับการดำเนินธุรกิจโดยลดจำนวนวัตถุดิบลงเพื่อให้สอดคล้องต่อระยะเวลาขายและจำนวนผู้บริโภคที่น้อยลง ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจในเยาวราช นอกจากนั้น ผลการวิเคราะห์รูปแบบการใช้พื้นที่แสดงให้เห็นว่า การปรับเวลาในการดำเนินธุรกิจส่งผลกระทบอย่างมากในกระบวนการตั้งร้าน ปิดร้าน และเก็บของ ผลการประเมินทุนทางสังคมของร้านค้าในพื้นที่เยาวราชพบว่า ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการร้านอาหารหาบเร่แผงลอยมีระดับทุนทางสังคมปานกลาง ธุรกิจร้านค้าหาบเร่ แผงลอยในเยาวราชมีความเข้มแข็งพอที่จะสามารถผ่านวิกฤติไปได้ เนื่องจากมีระดับมิติบรรทัดฐานที่สูง รวมถึงความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่างสมาชิกในร้านค้าเอง ร้านค้าใกล้เคียง และภาครัฐ (สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์) ผ่านเครือข่ายทางสังคมของกลุ่มร้านค้าแบบพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นหลัก ส่งผลให้เกิดการเพิ่มความเข็มแข็งของทุนทางสังคมในเยาวราชได้ นอกจากนี้ผู้วิจัยเสนอแนะว่า แนวคิดทุนทางสังคมยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับหลักการของการจัดการการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ (area-based business continuity management) และหลักการมีส่วนร่วมที่สามารถสร้างความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ตามบริบทของพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาในพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ