Abstract:
วิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้การท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงัก สร้างผลกระทบแก่ธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศไทย แต่ธุรกิจด้านกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (Wellness) กลับมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยที่เริ่มให้ความสนใจด้านสุขภาพ ซึ่งจังหวัดจันทบุรีมีการวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากศักยภาพของภูมิประเทศและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สอดคล้องกับแนวคิดด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในอนาคต
วิทยานิพนธ์เล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะพฤติกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่างที่สนใจทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพและมีแนวโน้มจะเข้าพักโรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดจันทบุรี เพื่อนำมาปรับใช้กับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงสุขภาพภายในโรงแรม โดยผู้วิจัยศึกษาการวิจัยเชิงปริมาณจากอุปสงค์การท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่าง โดยการสร้างแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ (Online) จากนักท่องเที่ยวจำนวน 313 คน โดยพิจารณาปัจจัยเรื่อง ลักษณะทางประชากร พฤติกรรมการท่องเที่ยว รูปแบบกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่สนใจให้โรงแรมบริการ จากนั้นผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติและสรุปผลร่วมกับข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงสุขภาพในโรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดจันทบุรีเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงธุรกิจโรงแรมแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่
จากผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ทำแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 60 – 79 ปี เป็นผู้เกษียณอายุ และ พนักงานเอกชนจำนวนใกล้เคียงกัน มีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี มีรายได้ต่อเดือน 20,001 – 40,000 บาท จากการวิเคราะห์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่สามารถสร้างโอกาสแก่โรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดจันทบุรีด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีพฤติกรรมท่องเที่ยวสอดคล้องกับกิจกรรมในพื้นที่ เช่น การเดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ การท่องเที่ยววิถีชุมชน เป็นต้น โดยกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีรายได้ต่อเดือน 20,001 – 40,000 บาท เดินทางพร้อมกลุ่มเพื่อน จำนวน 6 – 11 คน พักค้างคืนโรงแรม 3 วัน 2 คืน มีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่อคนต่อทริป ประมาณ 2,001 – 4,000 บาท มาท่องเที่ยวช่วงวันธรรมดาและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุสนใจให้โรงแรมช่วยบริการ ได้แก่ 1) บริการนำเที่ยวภายนอกโรงแรมโดยสนใจกิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับโฮมสเตย์ (Homestay) มากที่สุด 2) บริการเฉพาะรถรับ-ส่งภายนอกโรงแรมโดยสนใจกิจกรรมเดินชมธรรมชาติและกิจกรรมวิถีชุมชนมากที่สุด 3) บริการภายในโรงแรมโดยสนใจกิจกรรมนวดไทยหรือนวดน้ำมันหอมระเหยมากที่สุด ซึ่งกิจกรรมรูปแบบดังกล่าวมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมทั่วไปของผู้สูงอายุเนื่องจากเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่มีการใช้กำลังกายในระดับที่ไม่หนักจนเกินไป
การเสนอแนะโอกาสในการนำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่กลุ่มตัวอย่างสนใจมาปรับใช้กับโรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดจันทบุรี ได้แก่ 1) การร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่หรือบุคลากรในชุมชนท้องถิ่นเพื่อบริการและอำนวยความสะดวกกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพภายนอกโรงแรม และ 2) การปรับปรุงหรือต่อเติมพื้นที่ภายในโรงแรมรวมถึงการปล่อยเช่าพื้นที่แก่ผู้ประกอบการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพประเภทการนวดไทยที่สนใจ หากผู้ประกอบการสามารถปรับบริการและพื้นที่โรงแรมเพื่อรองรับกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพข้างต้นก็จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายมาเข้าพักที่โรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดจันทบุรีได้