Abstract:
ปัจจุบันการรังวัดสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์ในทันที (Real-Time Kinematic: RTK) เป็นวิธีที่นิยมใช้เนื่องจากมีข้อดีในเรื่องของเวลาการรังวัดที่รวดเร็ว ประมวลผลค่าพิกัดได้ในทันที ต่อมามีการพัฒนาเป็นการรังวัดสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์ในทันทีโดยอาศัยโครงข่าย (Network-based Real-Time Kinematic: NRTK) โดยมีวิธีการรังวัดที่นิยมอยู่ 4 ระบบ ได้แก่ การรังวัดแบบ Virtual Reference Station (VRS) การรังวัดแบบ Fläechen-Korrectur Parameters (FKP) การรังวัดแบบ Master-Auxiliary Concept (MAC) และการรังวัดแบบ Individualized MAC (I-MAC) โดยใช้โครงข่ายสถานีรังวัดสัญญาณดาวเทียม GNSS อ้างอิงแบบต่อเนื่อง (GNSS Continuously Operating Reference Station Network: GNSS CORS Network) ของกรมแผนที่ทหาร งานวิจัยนี้ได้จัดทำเครื่องมือ GNSS Splitter มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการรังวัดทั้ง 4 ระบบในเวลาเดียวกันใน 2 กรณี คือในพื้นที่โล่ง และพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง จากการศึกษาวิจัยพบว่ากรณีพื้นที่โล่ง จำนวน GNSS Fixed Solution ระบบ VRS, I-MAC ไม่ต่ำกว่า 95% ของจำนวนทั้งหมด ระบบ MAC, FKP จำนวน GNSS Fixed Solution ไม่ต่ำกว่า 75% ส่วนกรณีพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง ระบบ VRS, I-MAC และ MAC มีจำนวน GNSS Fixed Solution ไม่ต่ำกว่า 50% ระบบ FKP มีจำนวน GNSS Fixed Solution ต่ำกว่า 50% ในส่วนค่าความถูกต้องค่าพิกัดทางราบเมื่อเทียบกับการรังวัดสัญญาณดาวเทียมแบบสถิต ในกรณีพื้นที่โล่งทั้ง 4 ระบบ ให้ค่า RMSE ที่ต่ำกว่า 5 ซม. ในกรณีพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางทั้ง ระบบ VRS และ I-MAC ให้ค่า RMSE ต่ำกว่า 8 ซม. และ ระบบ FKP และ MAC ให้ค่า RMSE ต่ำกว่า 30 ซม.