Abstract:
สารนิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษากลวิธีการแปลมุกตลกไทยในบทพูด เพื่อทำเป็นบทบรรยายภาษาอังกฤษ โดยศึกษาจากจากภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก...พระโขนง/ Pee Mak โดยมีสมมติฐานว่าการแปลมุกตลกของภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก...พระโขนง ในบทบรรยายภาษาไทยเพื่อทำเป็นบทบรรยาย ภาษาอังกฤษนั้น ผู้แปลต้องเข้าใจองค์ประกอบที่ใช้ในการนำเสนอความตลกโดยอ้างอิงจากทฤษฎีความไม่เข้ากันของ เจมส์ บีทที (1809) โจเอล เชอร์เซอร์ (1985) และ คริสโตเฟอร์ วิลสัน (1979) ประกอบกับรายงานการวิจัยการนำเสนอความตลกที่รวบรวมโดย นารีรัตน์ บุญช่วย รวมถึงการวิเคราะห์องค์ประกอบในการสื่อความหมายแบบมัลติโมดัลของ แครีย์ จูวิทท์ (2009) และ คริสโตเฟอร์ เทย์เลอร์ (2003) จึงจะทำให้บทแปลสามารถคงองค์ประกอบในการสร้างความตลกไว้ได้ จากการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยพบว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้ ได้รับการยืนยันเพียงบางส่วน กล่าวคือ ในการแปล ผู้แปลจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับมุกตลกและเข้าใจองค์ประกอบด้านภาพและ เสียงที่ช่วยถ่ายทอดความตลกไปยังผู้ชม อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยได้เพิ่มแนวคิดอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากความรู้ที่ได้จากการศึกษาแนวคิดตามสมมติฐานเหมาะสมสำหรับการลงมือแปล แต่ยังไม่ครอบคลุม เรื่องการวิเคราะห์กลวิธีการแปลจากบทแปลของผู้อื่น แนวคิดเพิ่มเติม ได้แก่ การแปลแบบรักษา ความกลมกลืนและรักษาความแปลกต่างตามแนวคิดของเวนุติ (1995 และ 1998) และแนวทางการแก้ปัญหาในการแปลมุกตลกในบทพูดของดาเลีย จิอาโร (2006) ที่ได้นำมาใช้เป็นแนวทางในการ วิเคราะห์บทแปลของนักแปลโดยละเอียด ซึ่งผู้วิจัยพบว่ากลวิธีการแปลที่ผู้แปลใช้ คือ การแปลแบบรักษาความกลมกลืน การแปลแบบรักษาความแปลกต่าง การใช้กลวิธีการแปลบทพูดมุกตลกของจิ อาโร และการผสมผสานกลวิธีการแปลระหว่างการแปลแบบรักษาความกลมกลืนและการแปลแบบรักษาความแปลกต่าง ตามลำดับ โดยผู้แปลยืนยันว่าการจะทำให้บทแปลคงความตลกไว้ได้ ผู้แปล ต้องตระหนักว่าผู้ชมปลายทางจะสามารถเชื่อมโยงบทแปลให้เข้ากับความแตกต่างทางวัฒนธรรมในภาพยนตร์ได้หรือไม่